Reflection ของนิสิตฐานหัว และฐานใจ
-
สิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากวิชานี้ที่สำคัญที่สุด 3 อย่าง
- สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากวิชานี้ที่รู้สึกว่าสำคัญที่สุดอย่างแรกเลยคือเรื่องนพลักษณ์ ต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้ใหม่สำหรับผมมาก ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้เลยว่าคนเราจะแบ่งลักษณะนิสัยออกเป็น 9 แบบได้แบบนี้ ซึ่งพอได้เรียนแล้วมันทำให้ผมเข้าใจคนรอบตัวมากขึ้นเยอะเลยครับ มันช่วยให้ผมรู้ว่าแต่ละคนมีมุมมอง มีแรงขับเคลื่อนในชีวิตไม่เหมือนกัน อย่างเช่น ถ้ารู้ว่าใครสักคนเป็นลักษณ์ 6 ที่มักจะคิดรอบคอบและค่อนข้างกังวล ผมก็จะพยายามสื่อสารให้ชัดเจนมากขึ้น พยายามแสดงให้เห็นว่าผมไว้ใจได้ และเปิดพื้นที่ให้เขารู้สึกปลอดภัยในการพูดคุย ซึ่งแบบนี้มันช่วยให้ทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น พอเรารู้จักนพลักษณ์ มันก็ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมบางคนถึงคิดหรือแสดงออกต่างจากเรา และถ้าเราปรับตัวให้เข้ากับแต่ละลักษณ์ได้ ผมว่าไม่ว่าจะทำงานกับใคร หรืออยู่ในสังคมแบบไหน เราก็จะอยู่ร่วมกันได้แบบสบายๆ มากขึ้นครับ
- สิ่งที่ผมได้เรียนรู้อีกอย่างจากวิชานี้คือเรื่องการสื่อสารอย่างสันติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ฟังดูเรียบง่าย แต่พอได้ลองเรียนรู้จริงๆ แล้ว ผมกลับรู้สึกว่ามันลึกกว่าที่คิด สิ่งที่เปลี่ยนไปสำหรับผมคือ มุมมองต่อการสื่อสาร เดิมทีผมเคยคิดว่าการพูดคุยกันก็แค่การแลกเปลี่ยนคำพูด แต่พอได้เรียนเรื่องนี้ ผมเริ่มมองว่าการสื่อสารเป็นเหมือนกระจกสะท้อนตัวตนของเราเอง คือมันไม่ได้มีแค่คำที่เราพูดออกไป แต่มันยังมี ความรู้สึก และ ความต้องการ ที่ซ่อนอยู่ข้างในอีกชั้น มันทำให้ผมเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองบ่อยขึ้นว่าตอนนี้เรารู้สึกยังไง หรือจริงๆ แล้วเราต้องการอะไรจากสถานการณ์นี้ ซึ่งมันช่วยให้ผมเข้าใจตัวเองมากขึ้น และเวลาจะพูดอะไรกับใคร ผมก็จะคิดเผื่อถึงความรู้สึกของเขาด้วย ไม่ใช่แค่พูดเพื่อให้ตัวเองสบายใจอย่างเดียว ผมว่าการสื่อสารแบบนี้ไม่ใช่แค่ช่วยให้เราหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง แต่มันยังเป็นการเปิดพื้นที่ให้ความเข้าใจเกิดขึ้น ทั้งกับตัวเองและกับคนรอบตัว ซึ่งมันเป็นทักษะที่ผมรู้สึกว่าอยากเก็บไว้ใช้ไปตลอด ไม่ว่าจะในชีวิตส่วนตัวหรือในการทำงานก็ตาม
- เรื่องที่สามที่ผมได้เรียนรู้คือเรื่องการฟังจากภูเขาใต้น้ำแข็ง ปกติเราจะฟังแค่สิ่งที่คนพูดออกมา เช่น คำพูด สีหน้า น้ำเสียง แล้วก็คิดว่าเรารู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่เขาพูดมันอาจเป็นแค่ส่วนเล็กๆ เหมือนยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น สิ่งที่อยู่ข้างใต้คำพูด เช่น ความรู้สึก ความกลัว ความไม่มั่นใจ หรือความต้องการบางอย่าง มันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตา และถ้าเราไม่ตั้งใจฟังจริงๆ เราก็จะพลาดสิ่งเหล่านั้นไป การเรียนเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกว่า การฟัง ที่ดีคือการเปิดใจ ไม่รีบตัดสิน ไม่รีบให้คำตอบ แต่ฟังเพื่อเข้าใจว่าเบื้องหลังคำพูดนั้นเกิดจากอะไร ซึ่งมันไม่ง่ายเลย แต่ผมว่าถ้าทำได้ มันช่วยให้เราสื่อสารกับคนอื่นได้ดีขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น และหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็น
-
คุณในเวอร์ชั่นก่อนเรียน และหลังเรียน แตกต่างกันอย่างไร
- ก่อนจะมาเรียนวิชานี้ ผมไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับเรื่องความรู้สึก หรือความต้องการของตัวเองเท่าไหร่เลยครับ คือไม่ได้คิดว่ามันไม่สำคัญนะครับ แต่แค่ไม่เคยหยุดมอง หรือถามตัวเองว่า ตอนนี้เรารู้สึกยังไง? หรือเราต้องการอะไรจริงๆ ผมมักจะปล่อยให้มันผ่านไป หรือไม่ก็เก็บไว้เงียบๆ เพราะรู้สึกว่าไม่อยากคิดเยอะ
- แต่หลังจากได้เรียน โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสารอย่างสันติและการฟังจากใต้ภูเขาน้ำแข็ง มันทำให้ผมเริ่มเข้าใจว่า การรับรู้ความรู้สึกของตัวเองมันสำคัญมาก มันไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่มันส่งผลต่อการสื่อสาร การทำงาน และความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ผมเริ่มหยุดฟังตัวเองมากขึ้น ลองถามใจตัวเองดูว่า เรารู้สึกยังไงกับเรื่องนี้? และเริ่มกล้าจะยอมรับมัน ไม่รีบปัดทิ้งเหมือนเมื่อก่อน มันทำให้ผมเข้าใจตัวเองมากขึ้น และกลายเป็นคนที่สื่อสารกับคนอื่นได้ชัดเจนขึ้นด้วย เพราะเราไม่ได้สื่อสารแค่จากคำพูด แต่จากความเข้าใจตัวเองจริงๆ ผมว่าเวอร์ชั่นหลังเรียนของผม คือเวอร์ชั่นที่ใส่ใจกับ ภายใน มากขึ้น ไม่ได้ละเลยความรู้สึกตัวเองเหมือนเดิม และพร้อมจะเข้าใจคนอื่นมากขึ้นด้วย
-
มีด้านใดของคุณที่คุณอยากจะเปลี่ยน แต่ยังไม่เปลี่ยนบ้าง
- สิ่งหนึ่งที่ผมอยากเปลี่ยนในตัวเองมาตลอดก็คือ ความขยัน ผมอยากเป็นคนที่ขยันมากๆ เพราะรู้สึกว่า ไม่ว่าเราจะทำเรื่องอะไร ถ้าเราทุ่มเทและลงแรงมากพอ ความสำเร็จก็เป็นสิ่งที่จับต้องได้ แต่ยอมรับตรงๆ ว่าตอนนี้ผมยังรู้สึกว่าตัวเองขยันไม่พอ ยังมีหลายครั้งที่รู้ว่าเราทำได้มากกว่านี้ แต่ก็ยังไม่ลงมือเต็มที่ บางทีรู้สึกว่าเสียโอกาสไปเพราะเราไม่พยายามให้ถึงที่สุด ผมเชื่อว่าถ้าเปลี่ยนตัวเองให้ขยันได้มากกว่านี้ จะทำให้ชีวิตหลายอย่างดีขึ้น ทั้งเรื่องเรียน งาน หรือแม้แต่เป้าหมายที่อยากทำในอนาคต แต่ตอนนี้ก็ยังอยู่ในจุดที่ต้องค่อยๆ ฝึก ค่อยๆ ดันตัวเองให้ขยับเข้าใกล้เวอร์ชันที่อยากเป็น
-
สำหรับคนที่ยังไม่เคยเรียนวิชานี้ คุณจะอธิบายวิชานี้ให้ฟังว่าอย่างไร
- ถ้าจะอธิบายวิชานี้ให้ใครสักคนฟัง ผมคงบอกว่า มันเป็นวิชาที่ไม่ได้สอนแค่ในตำรา แต่มันสอนให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น เป็นวิชาที่เน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์ การฟัง การเปิดใจ และการแลกเปลี่ยนกับคนที่มีเรื่องราวหลากหลาย
- สิ่งที่ทำให้วิชานี้พิเศษคือ พี่ๆ วิทยากรที่อาจารย์เชิญมาแต่ละท่าน ทุกคนมีเส้นทางชีวิตที่ไม่เหมือนกัน และทุกคนก็มาพร้อมกับมุมมองบางอย่างที่เราอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน ถ้าเราฟังด้วยใจที่เปิด ไม่ตัดสิน และพร้อมรับฟังอย่างแท้จริง เราอาจได้เจอกับบางอย่างที่กระทบใจเราจริงๆ บางคำพูด บางเรื่องราว อาจไม่ได้ยิ่งใหญ่ในตอนแรกที่ได้ยิน แต่เมื่อเราได้เอาไปคิดต่อ มันอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนบางอย่างในชีวิตเราได้เลย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมอยากฝากไว้กับคนที่ยังไม่เคยเรียนก็คือ ขอให้มาเรียนด้วยจิตใจที่เปิด พร้อมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องเรียนนี้ เพราะคุณอาจได้เจอบางอย่าง ที่เปลี่ยนชีวิตของคุณโดยที่คุณไม่ทันตั้งตัวก็ได้
Comments