ทบทวนปีที่ผ่านมา

คำถามจาก Josh Ginter: 10 Questions to Capture the Year in Your Journal

ได้แรงบันดาลใจจากการอ่านของมูที่ตอบคำถาม ๑๐ ข้อนี้เหมือนกัน So here I go.

1. What was your favorite single day/event of the year?

ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ดีมากๆ มีหลายอย่างที่ประทับใจ แต่ถ้าให้เลือกอย่างเดียว เลือกตอนที่พาเด็กๆ วิชา Communication and Leadership ไปเขาใหญ่ เป็นค่ายที่ไม่ได้คิดว่าจะทำ ไม่มีเป้าที่ชัดเจนว่าเด็กจะได้อะไร แค่อยากพาเด็กไปสัมผัสป่า ความลึกลับ นอนเต๊นท์ อยู่กับธรรมชาติ ใช้เซ็นส์ล้วนๆ ในการเชิญคนที่มาช่วยทำ ทั้งมูและวิชัย มันเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับคลาสเราและเด็กๆ และตัวชั้นเอง ทำให้ชั้นไว้ใจเสียงในใจตัวเอง ใส่ใจกับปิ๊งแว๊บต่างๆ ที่เข้ามา และกล้ามากขึ้น

2. What was the best thing you built/created?

คลาส Communication and Leadership ในแง่ตัวเอง ชั้นได้กระโดดข้ามเหวแห่งความกลัวของตัวเอง เป็นการฮึบที่สำคัญมาก  เป็นคลาสที่เปิดโลกการเรียนรู้ของชั้นและเด็ก เราได้เห็นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจริงๆ ในช่วง ๓ เดือน มันทำให้ชั้นเปลี่ยนเป็นคนอีกคนหนึ่ง ชั้นรู้สึกชอบตัวเองมากในตอนนี้ รู้สึกพอใจกับตัวเอง รู้สึกดีกับความชราตรงที่ชั้นฉลาดขึ้น เข้าใจมากขึ้น

3. What was the most impactful decision you made for you and your family’s future?

คิดไม่ออกเฉพาะเคส ถ้าในภาพรวม คือ ตัดสินใจทำสิ่งต่างๆ โดยไม่ใส่ใจกับความกลัวของตัวเอง ที่ยืนพื้นคือ กลัวลำบาก กลัวไม่สำเร็จ กลัวดูไม่ดี ชั้นเป็นคนที่ใส่ใจกับภาพลักษณ์ของตัวเองมาก ไม่ใช่ภาพลักษณ์ทั่วไปที่สังคมให้ค่า แต่เป็นภาพของชั้นในหัวของชั้นเอง

ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมคือ Communication and leadership class, Workshops ต่างๆ สำหรับนิสิตและอาจารย์, ทำกิจกรรมใหม่ๆ ที่เราไม่เคยทำ

ทั้งนี้ ความกลัวก็มีอยู่ ก็อยู่ด้วยกันกับความกังวล แต่มันมีผลกระทบกับชั้นน้อยลง

4. What was your best financial achievement?

มีมุมมองที่เปลี่ยนไปกับเงิน ตอนนี้มองว่ามันเป็นวิธีการ (Means) ที่เอื้อให้เราทำสิ่งต่างๆ  เงินเป็นเครื่องมือในการสร้างอิมแพคที่ไม่ต้องลงแรง  ชั้นเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะ พ่อและน้องๆ ซัพพอร์ต ชั้นมองว่าทรัพยากรที่ชั้นได้รับมาเพื่อช่วยคนอื่น และช่วยให้ชั้นมีเวลาที่จะทำประโยชน์

ชั้นเริ่มใช้เงินช่วยคนใกล้ตัว นอกเหนือจากบริจาคเงินให้กับมูลนิธิ เดิมจะกลัวว่าเค้าจะมาขอยืมอีก ตอนนี้ไม่กลัวการปฏิเสธคน

5. Did you achieve any lifelong goals?

ได้ในระดับหนึ่ง ความตั้งใจในชีวิตของชั้นคืออยากทำตัวให้เป็นประโยชน์กับตัวเองและคนอื่น อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ปะทุภายใน  งานที่ทำที่มหาลัยตอนนี้ตอบโจทย์ทั้งยังประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน

6. What was the hardest lesson you learned over the past year?

เราพยายามได้เต็มที่ แต่ผลจะเป็นอย่างไร เราควบคุมไม่ได้ เหตุปัจจัยมันเยอะ เวลาชั้นช่วยใคร ชั้นมีเป้าในใจอยู่แล้วว่าอยากเห็นภาพอะไร แต่ชั้นก็ต้องคอยเตือนตัวเองว่าอย่าล็อกเป้า การผิดหวังบ่อยๆ มันอาจทำให้ชั้นหมดแรงทำงาน และชั้นก็ไม่อยากเอาความหวังของชั้นไปเป็นภาระกับคนอื่น เช่น นิสิตเป็นต้น

7. Did you develop any new hobbies or passions? Are there any new hobbies or passions you want to develop in the New Year?

ฝึก Weight Training, ต่อยมวยแบบออกกำลังกาย, Rhythm Cycling และอดอาหาร (Intermittent Fasting) สนุกดี ชั้นฝึกโยคะมาสิบกว่าปี การฝึกแบบอื่นมันท้าทาย ทำให้ Workout ของชั้นสนุก และทำให้ชั้นรู้สึกมีสมาธิ มีพลัง ปีหน้าก็ยังคงทำต่อไป

8. What was the most humbling experience of the past year?

อันนี้เขียนยากมาก น่าจะเป็น.. เราไม่สามารถบังคับให้ใครทำอะไรได้ ถึงแม้ว่ามันจะดีกับเจ้าตัวแค่ไหนก็ตาม สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
Photo Credit: ต่าย ศศรส

9. What is the one thing you are most grateful for from this past year?

โอกาสที่ได้รับ ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน คนที่ได้เจอ ชั้นได้ทำในสิ่งที่อยากทำ และแทบจะไม่ต้องทำสิ่งที่ไม่อยากทำ พี่ณัฐเคยพูดว่าถ้าชั้นจะเอาอะไร ชั้นต้องเอาให้ได้ ซึ่งมองได้ทั้งแง่ลบว่าเอาแต่ใจตัวเอง แต่มองในแง่ดีก็ได้ว่ามีความมุมานะ (Determination)

10. What are your personal goals for the coming year? Family goals? Religious goals? Health goals? Financial or career goals?

แปลกประหลาดมากที่ไม่มีโปรเจคอะไรที่อยากทำเป็นพิเศษเลยในปีหน้า มีแต่ปิดงานที่เราได้เริ่มไว้ในปีที่แล้ว

ปกติชั้นเป็นคนเยอะๆ ปีที่ผ่านมาทำหลายสิ่งมากจนปีนี้อยากพัก ช่วงนี้สนใจการดูแลตัวเองมากๆ ทั้งกายและใจ เช่น ออกกำลังกาย นวดหน้า นวดตัว ฝังเข็ม อ่านหนังสือ ไปนอกสถานที่แบบไปคนเดียวแบบไม่รีบ

Comments