Spring Blooms in Zurich (3/4)

โพสต์ก่อนหน้านี้

วันที่สามก็ออกนอกเมือง เพราะ main venues ในเมืองก็ดูหมดแล้ว สรุปแล้วว่าซูริกเป็นเมืองเล็กๆ กว่าลอนดอน ปารีส นิวยอร์ก อ้อ..แต่มันเป็น financial centers มีออฟฟิศธนาคารเยอะมาก เป็นเมืองที่คนแต่งตัวดีมากๆ จริงอย่างที่เพื่อนฉันบอก

วันนี้ขึ้นเขา Uetilberg ไปดูวิว ก็นั่งรถไฟไป ๒๐ นาที เค้าสร้างทางรถไฟขึ้นเขาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ สุดทางที่บนเขา ลงจากรถไฟก็เอ๋อเลย ว่าฉันจะเริ่มเดินตรงไหน ก็เดินเข้าไปถามที่ร้านอาหาร เค้าน่ารักมาก พูดภาษาอังกฤษได้ด้วย สรุปก็เดินตามป้าย

ป่าฝรั่งเป็นป่าเขตหนาว ต้นไม้โตช้ากว่าของบ้านเรา ของที่เขาใหญ่น่ะเหรอ ทางเดินป่าถ้าไม่ถูกใช้แป๊ปเดียวก็ถูกปกคลุมด้วยต้นไม้อย่างรวดเร็ว สัตว์ใหญ่เช่นช้างมีหน้าที่เปิดเส้นทางในป่าทึบ ทำให้สัตว์อื่นๆ ผ่านไปได้

ป้ายเค้าดีมากในช่วงแรกๆ ช่วงกลางๆ ก็ชักหาย ก็ใช้ถามคนที่ขี่จักรยานผ่านมา เค้ามีทั้งทางคนเดิน (แคบหน่อย) และทางจักรยาน (กรวด) ที่กว้างพอให้รถผ่านได้

 ก็เห็นวิวทะเลสาบซูริกและเมืองซูริก ฉันชอบที่ผ่านทุ่งหญ้า บ้านคน แล้วมันก็เงียบๆ สงบดี อากาศดีด้วย

ตามหนังสือ Lonely Planet เค้าบอกว่าพอไปถึงจุดๆ นี้ (Felderegg) ให้ขึ้นรถกระเช้าลงมา เราก็เห็นสถานี แต่ไม่เห็นคนเลย แต่เค้ามีป้ายที่มีตัวหนังสือ Electronics บอกเวลา ฉันก็เดินเข้าไปขึ้นกระเช้า ขึ้นคนเดียว พอถึงเวลา ออดดัง ประตูปิด แล้วมันก็เลื่อนลงมา ขำดี ไม่เคยขึ้นกระเช้าคนเดียวมาก่อน คงมีคนคุมอยู่ข้างล่างหรือข้างบนนั่นแหละ แต่ไม่เห็นตัว ลงมาเจอเมืองเล็กๆ อีกเมือง ก็เอ๊...รถไฟอยู่ไหนน้อ... ก็เห็นป้าย..ก็เดินตามป้าย คือ เค้าทำอะไรละเอียดมากเลย ก็เบิ่งตาดู ก็จะเห็น

เริ่มฉลาดขึ้น ใช้จอ Display
ที่หมุนให้เห็นตัวเองเพิ่งเป็น
สิ่งหนึ่งที่ฉันชอบเวลาไปเที่ยวคือมันฝึกทักษะการสังเกต ว่าไปยังไง อะไรอยู่ที่ไหน วันนี้มีแยกหนึ่งที่ไม่มีป้าย ฉันก็เอาวะ เดา พอดีเดินไปสักพัก ก็ถามคนที่ผ่านมา ก็ถูก

เสร็จก็แวะไปกินข้าวในเมือง ที่ในยุโรปเค้ามีห้างเหมือนเซ็นทรัล แล้วก็มีคล้ายๆ food court คือ ให้เราเดินเลือก แล้วมาจ่ายตังค์ แล้วมีโต๊ะให้นั่ง ฉันชอบเพราะไม่แพง อาหารดี และไม่เขินเวลานั่งคนเดียวด้วย

ชอบสีของ Bulletin Board ใน ETH
ต่อจากนั้นว่าจะไป Museum of Graphic Designs ไม่ห่างจากตัวเมืองเลย ปรากฎว่ามันอยู่ในมหาวิทยาลัย ถามนศ.ที่เดินออกมา ก็ไม่รู้ว่าอยู่ไหน ปรากฎว่ามันปิด แต่ก็เฉยๆ ก็รู้สึกดีที่ได้เห็นมหาลัยเค้า เป็น Polytechnic Institute (เรียกว่า ETH) หรืออะไรสักอย่าง มีหลายตึก แล้วมีรถเมล์ รถรางผ่านตามตึกเหล่านั้น ตึกที่ฉันเข้าไปใหญ่มาก ก็แอบดูห้องเรียนเค้า (ยังมีการเรียนอยู่) เป็นตึกเก่า แล้วเค้า renovate ด้วยการติดกระจกแทรกกับกำแพงปูน แปลกดี เห็นนศ.นั่งเรียนกัน ฉันชอบบรรยากาศมหาลัยน่ะ ชอบการเรียนรู้


ร้าน Freitag
โอเค มันปิด ก็เลยไปร้าน Freitag แทน เป็นพี่น้องคนสวิสที่เอาผ้าใบที่ใช้คลุมตู้คอนเทนเนอร์ (Tarp) และสายเข็มขัดนิรภัยมาทำกระเป๋า ร้านนี้ไอเดียดีมากเลย ตอนแรกก็งงว่าทำไมไม่ตั้งอยู่บนถนนช้อปปิ้ง มาตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟ ออฟฟิศชานเมือง ปรากฎว่าเค้าตั้งอยู่ใกล้ๆ โรงงานเขา ที่อยู่ที่ Zurich นี้ เค้าใช้ตู้คอนเทนเนอร์มาเรียงต่อกันให้สูง แล้วต่อบันไดขึ้นไปน่ะ ฉันเคยซื้อกระเป๋าเค้าโดยไม่ได้รู้ที่มาของเค้ามาก่อนที่ Cologne, Germany โดยสะดุดตา Display หน้าร้าน แล้วกระเป๋าก็อึดจริงๆ ใช้มาสองปีแล้ว ใช้แทบทุกวันด้วยเพราะใส่เสื้อผ้าโยคะ Debate กับตัวเองอยู่นานว่าซื้อดีไหม ในที่สุดก็ซื้อ...

Comments