Spring Bloom in Zurich (2/4)

โพสต์ก่อนหน้านี้

รูปบน Picasa Web Album

วันนี้ก็ไปโบสถ์ เดินเล่น และไป museums ออกจากบ้านเช้า และรถไม่ติดและไม่ไกล ก็เลยไปถึงเร็ว โบสถ์เปิดให้เข้า ๑๐ น. ก็เลยเดินเล่นริมทะเลสาบไปก่อน เดินดูของ ห้างและร้านเปิด ๙ น. เร็วมาก ปกติทั่วไปในประเทศที่ไปมา จะเปิดกัน ๑๐ โมง วันนี้ฉันได้ของฝากให้ทุกคนในครอบครัวครบ

Zurich เป็นเมืองอกแตก มีแม่น้ำผ่ากลาง ก็มีสะพานข้ามหลายจุด และรถบัสกับรถรางเค้าทั่วถึงมาก เลยไม่เคยเจอรถติด โบสถ์สำคัญสองโบสถ์ก็ตั้งตรงข้ามฝั่งแม่น้ำกันเลย

ฉันเพิ่งรู้ว่าศาสนาคริสต์เวลาเค้าเปลี่ยนนิกาย เช่น จาก Roman Catholics ไป Protestant เค้าโหดมาก พวกงานศิลป์ของนิกายเดิม เค้าเผาทึ้งหมด แต่พวกมุสลิมก็เป็นอย่างนั้นแหละเนอะ

Grossmunster
 ในสมัยก่อน สังคมยุโรป ถ้าผู้หญิงลูกคนมีเงินแล้วไม่ได้แต่งงาน ครอบครัวมักจะบีบให้ไปเป็นแม่ชี อยู่ที่คอนแวนต์ (จากที่อ่านตาม museum) ฉันเคยเรียนโรงเรียนคริสต์มานาน เคยคิดอยากจะเป็นเหมือนกัน

โบสถ์สองอันนี้มีจุดเด่นที่กระจกสี (Stained glass) ซึ่งทำโดยศิลปิน Abstract ทั้งคู่ คือ Grossmunster มี Giacometti ส่วน Fraumunster มี Marc Chagall และ Giacometti เข้าใจว่าเดิมเป็นกระจกใส ฉันว่าดีนะ แทนที่จะเป็น Christian art ที่ดูโบราณ มันก็เลยดูทันสมัย ทำให้โบสถ์ดูสดชื่นไปด้วย

แล้วก็ไปเดิน Museum of Design (Museum fur Gestaltung) ไม่ใหญ่ เข้าใจว่าส่วนใหญ่จัดงานแสดงเฉพาะ ตอนนี้แสดงภาพถ่ายโดย Henri Cartier-Besson ซึ่งเป็นช่างภาพงานข่าวด้วย แล้วก็ถ่ายภาพคน (Portraits) ด้วย ส่วนใหญ่เป็นขาวดำ เค้าไปหลายที่มาก ไปอินเดีย จีน อเมริกา อินโดฯ ฉันว่าคนที่จะเป็นช่างภาพเก่งๆ ได้นี่ต้องตาดีและตาไว เพราะเรื่องเทคนิคมันหัดกันได้ แล้วพวกกล้องเดี๋ยวนี้ก็มีคุณภาพดีมาก

 ตอนแรกว่าจะดู Museum of Design อีกที่หนึ่ง ปรากฎไปถึงมันปิด แต่มันอยู่ใกล้ Park ที่อยู่ริมทะเลสาบซุริก ก็เลยเดินเล่น ดูคน ดูต้นไม้ ดูทะเลสาบแทนงานศิลป์ คนเริ่มออกมาอาบแดดกันแล้ว ขณะที่คนไทยอย่างฉันก็รู้สึกว่าฉันน่าจะเอาหมวกมา...

ฉันว่าความอ่อนเยาว์เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์มาก ทำไมความแก่มันดูต่างจาก Youth มากขนาดนั้น แล้วพอแก่แล้วมันจะงามยาก ถ้าไม่ใช่คนที่มีความสุขจากภายในนะ จะให้บรรยากาศหม่นหมองออกมาเลย และไม่ชวนให้อยู่ใกล้ สงสัยคนแก่กับคนหนุ่มงามที่คนละจุดกัน... คุณป้าเจ้าของ B&B เค้าอายุประมาณ ๖๐ กว่าแล้ว แกดูเศร้าๆ น่ะ และดุด้วย แต่แกก็นิสัยดีและ reliable...

ยังมีเวลาเหลือ ก็เลยไป Museum of Arts (Kunsthaus) อีกที อันที่ไปดูวันแรก ที่ยังไม่ได้ดู Special exhibition ของเค้า ก็ยังเป็นภาพถ่ายอยู่ แต่เน้นที่ภาพถ่ายของรูปแกะสลัก (Photography of Sculpture) ก็น่าสนใจดี แต่สู้อันแรกของ Henri ไม่ได้

ตอนเช้าๆ อากาศจะเย็น และตอนบ่ายๆ จะร้อน ตอนเย็นก็เย็นลงอีกที ฉันมักจะลืมล้างจมูก ก็เลยจามมโหฬารช่วงเช้าๆ

ห้องที่อยู่ตอนนี้แคบกว่าที่ฟินแลนด์ เดินจงกรมไม่สะดวก และพื้นมันก็ดังเอี้ยดด้วย ฉันจะเดินตอนตีห้า ก็เกรงใจเพื่อนข้างห้อง ก็เลยขยับมือแทน ไม่ได้ทำมานานแล้ว

พอภาวนาแล้วก็ทำให้ไม่เบื่อ ไม่รังเกียจการรอ เช่น รอรถ รอคน หรือเดินทาง ก็ขยับนิ้ว เคาะนิ้วไป ฉันว่าก็ในชั้นต้น ก็ทำให้ไม่เป็นคนขี้หงุดหงิด จะกลับมาเกิดใหม่หรือไม่ บรรลุธรรมถึงขั้นไหน ฉันไม่ได้กังวลมากนัก เพราะอยากได้ก็ใช่ว่าจะได้

Comments