สุขอนามัยที่ออสเตรีย

อยู่ที่ Innsbruck เป็นเมืองสุดท้ายที่เรามาทำงาน มาที่ public hospital ของเมือง เป็นโรงพยาบาลใหญ่ มี 1500 เตียง มีโรงเรียนแพทย์ด้วย โรงพยาบาลที่ออสเตรียแทบทั้งหมดเป็นรพ.ของรัฐ  รพ.นี้ไม่พลุกพล่านเลย บรรยากาศเหมือนรพ.เอกชนที่ไทย  ไม่หนาแน่นเพราะเค้ามีระบบให้คนไข้ต้องไปหาหมอท้องถิ่นก่อน แล้วหมอ primary นี้จะ refer มาที่รพ.ใหญ่อีกที คนไข้ไม่สามารถบุกมาที่รพ.ใหญ่นี้ด้วยตนเอง  ข้อดีคือทำให้ภาระงานเกลี่ยๆกันไปในระบบ ไม่กระจุกอยู่ที่รพ.ใหญ่

ค่าใช้จ่ายชำระโดยประกันสังคม  รัฐบาลกลางจ่ายค่าใช้จ่ายที่เกินประกันสังคม  รพ.ได้เงินจากรัฐบาลกลาง รัฐบาลประจำแคว้นและประกันสังคม เหมือนที่ Slovenia รพ.จึงไม่มีแรงจูงใจที่จะดึงดูดคนไข้ต่างชาติิเพราะได้เงินจากรัฐอยู่แล้ว ผู้บริหารรพ.ก็ยอมรับว่าระบบนี้ที่รักษาคนออสเตรียทุกคนเป็นระบบที่แพง และในอนาคตรัฐอาจจ่ายไม่ไหว แต่คุณคนนี้เค้าคิดว่าประชาชนจ่ายภาษีให้รัฐ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐที่ดูแลประชาชน เค้าคิดว่า healthcare สำคัญกว่าเรื่องอื่น เช่น ถนน 

ฉันคิดว่าระบบเก็บภาษีสูงๆแล้วเลี้ยงดูคนทุกคนนั้นดีทางทฤษฎี ถ้าคนอายุไม่ยาวมากและไม่ corruption  แต่ตอนนี้คนเริ่มอายุยาวขึ้นเรื่อยๆ  ปัญหาจึงเริ่มงอกขึ้นมา

เมื่อวานหลังจากที่ไปดู nursing school เราก็แวะเที่ยว Triglev national park ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งเดียวของ Slovenia ฝนตกจนหยุดในที่สุด มีเส้นทางเดินป่าหลายเส้นแต่เราไม่มีเวลาที่จะเดิน อากาศช่วงนี้เหมาะกับ hiking มาก เพราะไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป เราขับรถทะลุผ่านอุทยานนี้เพื่อขึ้น highway ไปออสเตรีย ผ่านหมู่บ้านหลายแห่ง ที่ทางเข้าและออกข้างถนน มีศาลเล็กๆ ที่มีรูปปั้นพระแม่มารี (แม่ของพระเยซู) อุ้มพระเยซูทารก  ลักษณะและที่ตั้งคล้ายศาลพระภูมิมาก วัตถุประสงค์คงเป็นอย่างเดียวกัน หมู่บ้านเหล่านี้ทำเกษตร มีโรงนาเก็บเครื่องมือ หลายบ้านมีม้า วัวหรือแกะ บ้านปลูกติดๆ กัน ถนนที่ผ่านก็แคบๆ บางจุดสวนกันไม่ได้ ต้องเบี่ยง

จาก bled, Slovenia มาที่ Innsbruck, Austria ใช้เวลาบนรถ 5-6 ชม.  ถนนตัดทะลุเข้าอุโมงค์ลอดใต้ภูเขา ถ้าไม่มีอุโมงค์คงใช้เวลาเดินทางมากกว่านี้ มีด่านเก็บค่าผ่านทางเป็นระยะๆ ชอบโมเดลคนที่ใช้เป็นคนจ่าย

หลังจากคุยกับคนที่รพ. เราก็เดินเที่ยวใน Innsbruck ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ส่วนที่นักท่องเที่ยวมักไปก็เดินแป็ปเดียวหมด สถาปัตยกรรมเก่าๆก็สวย แต่ส่วนที่สวยที่สุดคือภูเขา alps ที่มองจากมุมไหนก็เห็น เพราะไม่มีตึกสูงและภูเขาสูงมาก ตรงส่วนบนๆของภูเขาเป็นหินสีเทา เมฆลอยระๆ อยู่บางๆ แอมพาขับรถขึ้นเขามาด้วย

เราขับรถกันเอง ไม่ยากเพราะมี GPS ในรถเช่าเรามีเสื้อกั๊กสีสะท้อนแสง วันหนึ่งเราเห็นคนจอดรถเพราะเสียอยู่ข้าง highway เค้าใส้เสื้อกั๊กคล้ายกันนี้ คิดว่าจะซื้อมาเก็บไว้ในรถที่เมืองไทยบ้าง 

วันนี้ไปดูพิพิธภัณฑ์ของ Swarovski ด้วย แสดงงาน art ที่ใช้ Swarovski crystals บางห้อง interactive มาก มีหุ่นยนต์ มีวีดีโอ ของเคลื่อนไหว คนไทยมาเยอะขนาดเค้ามีโบรชัวร์เป็นภาษาไทย