ที่ยุโรป ชื่อเมืองในภาษาท้องถิ่นกับในภาษาอังกฤษสะกดไม่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะใช้ a b c d เหมือนกันก็ตาม เช่น Vienna คือ Wien และ Koln คือ Cologne เวลาขึ้นรถก็ต้องดูดีๆ เดาด้วย
กำลังรอรถมารับอยู่ เริ่มง่วงและเบื่อการรอ แต่รู้ว่าเราควรหัดอดทน ไม่แย่หรอก นั่งอยู่ใน mcdonald cafe. เค้ามีบะหมี่และชานมไข่มุกขายด้วย ห้องน้ำที่สถานีหยอดเหรียญก่อนเข้า กว่าจะได้เข้าต้องไปซื้อของเพื่อเอาเหรียญ แต่สะอาดดี
งวดนี้ได้ไปดู art museums ที่มีงานของ gustav Klimt และ Egon Schiele มากกว่า museum อื่นเพราะสองคนนี้แจ้งเกิดเป็นจิตรกรที่นี่ เป็นคนออสเตรียด้วย จริงๆเมืองนี้มีคนดังอีกคนคือ Sigmund Freud จิตแพทย์ที่พูดเรื่องจิตใต้สำนึก (subconsciousness) เค้า practice ที่นี่ ห้องที่มีโซฟาให้คนไข้เอนกาย ระบายความทุกข์ก็อยู่ที่นี่
ฉันว่าแทบทุกคนที่อยู่ใน pop culture ต้องเคยเห็นรูป the kiss ของ Klimt สิ่งที่เพิ่งรู้ตอนเห็นของจริงคือผ้าใบที่วาดเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส และเป็นเอกลักษณ์ของเค้าที่เป็นแบบนี้ทุกรูป อีกอย่างที่ audio guide บอกคือสีทองแทน holiness ไม่ใช่พระเจ้า แต่หมายถึงสิ่งที่เหนือมนุษย์ เอกภาพ อะไรทำนองนั้น มุมของภาพให้เราแทบไม่เห็นหน้าผู้ชาย แต่เห็นหน้าผู้หญิงเต็มหน้า หลับตาพริ้ม เอียงคอ ไม่เห็นส่วนอื่นของร่างกาย เห็นแต่หน้าลอยออกมาจากพื้นหลังสีดำและผ้าสีทองที่หุ้มร่างผู้หญิงและผู้ชายอยู่ ลายผ้าของผู้ชายเป็นสี่เหลี่ยมสีดำ ดูเป็นระเบียบ แน่นอน มั่นคง แต่ผ้าของผู้หญิงเป็นลายดอกไม้สดใส รูปแบน ไม่มีความลึก แบนเหมือนรูปจิตรกรรมไทย (ลองอธิบายสิ่งที่เป็นจักษุด้วยโสตะดู เปลี่ยน sensory channel) ความแบนแบบเอเชียหรืออียิปต์หรือการไม่ซ่อนฝีแปรงคือความ modern ของยุคเค้า เพราะความสวยแบบเดิมคือการทำให้ภาพวาดมี ๓ มิติ สีเนียนๆ
ส่รนอีกคนที่ดังมากและฉันเองก็ชอบมากคือ Egon Schiele. อายุคราวลูก Klimt รู้จักกันและ Klimt ช่วยเหลือ รูปเค้าเป็นภาพสีนำ้มัน แต่วาดแบนๆ เห็นลายเส้นเหมือนแรเงาด้วยสีไม้บางที ดูแล้วนึกถึงการ์ตูน เมื่อคิดว่าเค้าวาดเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว มันคงลำ้มากในตอนนั้น เค้าตายตอนอายุ 28 ด้วยโรคระบาดหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เพราะอาหารขาดแคลนและสุขอนามัยคงแย่ด้วย ฉันชอบความเป็นการตูน มุมของภาพของเค้า ถึงแม้ว่าบางอันจะดูเศร้าและหดหู่มากๆ ก็ตาม การวาดรูปที่ดูเศร้าหรือน่ากลัวคงเป็นการปลดปล่อยความรู้สึกภายใน เหมือนวาดเพื่อให้ยังพอทนอยู่ในโลกนี้ได้ ไม่ได้วาดเพื่อขายแล้วได้เงินอย่างเดียว
เขียนขณะอยู่บนรถไฟจาก Vienna ไป Graz ข้างทางรถไฟบางช่วงมี bike trail ให้เดินหรือถีบจักรยานด้วย ผ่านทุ่งนา โรงงานเป็นระยะๆ รถไฟนี้ใหม่มาก ห้องน้ำสะอาดพอๆกับเครื่องบิน ฝันกลางวันให้เรามีอย่างนี้บ้างในไทย. จริงๆแค่รถไฟไม่ late ก็หรูแล้ว บ้านในชนบทดูเงียบดี ขนาดเมืองหลวงอย่างเวียนนายังไม่ค่อยแน่นเลย ชั่วโมงเร่งด่วนก็ยังสบายๆ ขึ้นรถไฟใต้ดินไปได้ทุกคนที่รอ รถไฟฉันตอนนี้แล่นบนไหล่เขา
อีกที่ๆไปคือ Vienna fair. ไม่ใช่งานวัดแต่เป็นการออกร้านของ art galleries ทั่วโลก แต่ส่วนใหญ่ก็อยู่ในยุโรปนี่แหละ ให้คนที่สะสมและพิพิธภัณฑ์ทั้งหลายมาเลือกซื้อไป คนทั่วไปเสียค่าเข้า theme ของงานคือ the new contemporary. ฉันไม่ชอบอะไรที่พยายามดึงความสนใจด้วยประเด็นพื้นๆ เช่น sex หรือความรุนแรง มีวีดีโออยู่อันแสดงท่อนบนเหนืออก ไม่ใส่เสื้อ ของเด็กสาว เธอกำลังทำ oral sex กับกล้วยหอม มันหยาบโลนเกินไปและไม่สร้างสรรค์ ฉันไม่ต่อต้านความเปลือย แต่อยากเห็นในแบบที่งามหรือใหม่ แต่อีกนั่นแหละ ไม่มีตาชั่งมาตรฐานสำหรับเกณฑ์นามธรรมพวกนี้; ฉันต้องเดินอย่างระวังไม่ไปเตะหรือชนงาน installation บางอัน เป็นกล่องวางกับพื้นบ้าง เป็นหุ่นคนเท่าตัวจริงกอดกันบ้าง
อีกืี่ๆไปคือวัง เป็นวังหลักกับวังฤดูร้อนของราชวงศ์ habsburg ดูความเป็นอยู่ของคนสมัยก่อนแล้วคิดว่าตอนนี้เราอยู่กันอย่างราชามาก ก่อนปีคศ 1850 ผู้ดี"อาบน้ำ"โดยใช้นำ้จากเหยือกใหญ่ๆและมีอ่างล้างหน้า คงใช้เช็ดตัวเอา ส่วนห้องส้วมก็ไม่มี ใช้กระโถน ขนาดเป็นลูกกษัตริย์ ก็ยังมีโอกาสเสียชีวิตตอนเด็กๆสูง empress Marie Theresa มีลูก 16 คน เหลือโตแค่ 11 ที่ hofberg จัดแสดงจานชามช้อนส้อม ของที่เกี่ยวกับโต๊อาหารด้วย แปลกและสวยดี
วังหลักอยู่กลางเมืองเลย ส่วนเชินบรุนเป็นวังฤดูร้อนอยู่นอกเมือง ทั้งสองที่มี audio guide พร้อมตั๋วเข้า ก็ฟังเสียงบรรยายไปเดินดูไป เชินบรุนมีพันกว่าห้อง แต่ห้องสมัยก่อนไม่ใหญ่มากเพราะยังไม่มีระบบทำความร้อนที่ดีนัก
ชอบเมืองในยุโรปอีกอย่างที่จำกัดความสูง ไม่มีอะไรโด่งขึ้นมาบัง landscape เดิม
ตอนนี้อยู่ที่ Graz เป็นวันอาทิตย์ ร้านค้าปิดหมด ร้านอาหารและร้านกาแฟเปิด ชอบยุโรปตรงนี้ ไม่ตามใจขาช้อบ บีบให้คนทำอย่างอื่นบ้าง อากาศดีมาก แดดออก ไม่ร้อน ตึกเก่าสวย
Comments