Students' Own Words on Com & Leadership Class

สำหรับเพื่อนที่ยังไม่เคยเรียนวิชานี้ คุณจะอธิบายวิชานี้ให้ฟังว่าอย่างไร

วิชานี้เป็นวิชาที่ทุกคนต้องพร้อมและเปิดใจเข้ามาเรียน พร้อมที่จะเรียนรู้และพัฒนาชีวิตตัวเอง เป็นวิชาที่ทำให้เราหันมามองตัวเองมากขึ้น รู้จักตัวเองมากขึ้น ต้องกล้าที่จะเล่าเหตุการณ์หรือประสบกาณ์ของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนคนอื่น และก็ต้องเก็บความลับของตนเองและเพื่อนๆใน Class ด้วย สำหรับเราวิชานี้ถือเป็นวิชาที่เราได้มาผ่อนคลายหลังจากเรียนมาในสัปดาห์ เป็น Class ที่ให้ทุกคนเข้ามาพูดคุยกัน มองถึงตัวเอง และสอนหลายๆอย่างที่เราต้องนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวัน ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์มาก

หนูอยากบอกว่าเป็นวิชาที่ดีมาก ๆ ได้เรียนรู้ในหลาย ๆ อย่างที่เราไม่ได้หาเรียนได้ง่าย ๆเช่นเรื่องการโค้ช การสื่อสาร การเป็นผู้ฟัง การเรียนเรื่องนพลักษณ์ การขัดแย้ง การเรียนรู้ถึงธรรมชาติ ได้ทำกิจกรรมหลายอย่างเช่น การจับกลุ่มคุยกับเพื่อนที่ไม่เคยคุยกันมาก่อน การเลือกภาพที่ชอบและตีความ การใบ้ความรู้สึก การเขียน good time moment ซึ่งในส่วนตัวหนูรู้สึกเอ็นจอยกับการที่ได้เขียน good time moment มาก ทำให้หนูได้ทบทวนตัวเองในแต่ละวันว่าวันนี้หนูมีความสุขกับอะไรบ้าง ได้อ่านเรื่องราวความสุขของเพื่อน ๆ ก็ทำให้มีความสุขไปด้วย หนูเคยได้ยินหลายคนเคยบอกว่าไม่อยากลงวิชานี้เพราะงานเยอะซึ่งหนูก็มองว่าก็เยอะจริงแต่ทุกงานที่ได้ทำหนูรู้สึกแฮปปี้ที่จะทำ ไม่รู้ว่าจะมองว่าเวอร์ไหมแต่ว่าความรู้สึกในการเรียนวิชานี้ส่งผลกับการเรียนในมหาลัยมาก ๆ ความสุขที่เกิดการจากการเรียนคาบนี้ทำให้หนูรู้สึกมีไฟในการมามหาลัย ในการอ่านหนังสือในวิชาอื่น ๆ หนูดีใจมากที่ได้ลงวิชานี้และได้พูดคุยกับอาจารย์เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากที่เรียนหนูรู้สึกว่ามันดีขึ้นและหนูมีความสุขมากขึ้นมาก ๆ ค่ะ

เป็นวิชาที่ออกแนวจิตวิทยาหน่อยๆ ช่วยให้เราได้คิดได้ ได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น แต่ละสัปดาห์ก็จะมีหัวข้อที่แตกต่างกัน เช่น การจัดการกับความขัดแย้ง การสื่อสารอย่างสันติ นพลักษณ์ ซึ่งที่เรียนทั้งหมดทำให้เราพัฒนาตัวเองได้ตลอดเวลา และเมื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้เรามองโลกในมุมที่เปิดขึ้น และสุขสบายใจขึ้น และการอยู่ร่วมกับเพื่อนกับครอบครัวหรือคนรอบตัว ดีขึ้นอีกด้วย เพราะเราได้หัดสังเกตคนรอบตัวมากขึ้น พอทำเราทำความเข้าใจมากขึ้น เราก็จะเข้าหาคนอื่นถูกวิธีไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งกัน และเรายังสบายใจอีกด้วย

วิชานี้มีคุณค่าทางจิตใจมากเลยค่ะ ถ้าให้แนะนำเพื่อน หนูก็คงอยากให้เพื่อนได้ผ่อนคลายจากการเรียนมาตลอด 3 – 4 ปี ก็จริงอย่างที่เขาว่ากัน เหมือนหนูปวดหัวเรื่องเรียนมา 4 วัน เพื่อมาผ่อนคลายสมองวันศุกร์ตลอดเลย อยากแนะนำให้เพื่อนลองสังเกตตัวเองเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคม หากจะให้สังคมสมบูรณ์แบบได้ ต้องไม่เพียงแต่มีความรู้ แต่ควรมีความเข้าใจในตัวเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองด้วย

สำหรับผมวิชานี้ไม่เหมือนวิชาอื่นๆที่เน้นเรื่องวิชาการหรือhard skill แต่วิชานี้เน้นในเรื่องของการใช้ชีวิตในสังคมหรือsoft skill ซึ่งมีประโยชน์มากๆ เป็นวิชาที่สามารถเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของคนหลายๆคนได้เลย ซึ่งปัจจุบันก็มีเพื่อนภาคเปมาถามผมเกี่ยวกับวิชานี้เพราะพวกเขาสามารถลงได้เทอมหน้า ผมก็ได้แนะนำเพื่อนๆของผมไปว่าให้ลงวิชานี้ เพราะถ้าไม่ลงวิชานี้แล้วจะนึกเสียดายทีหลังแน่นอน มันสามารถเปลี่ยนคนได้จริงๆ เช่น วิชานี้สามารถเปลี่ยนผมจากที่เป็นคนอืดอาดยืดยาดให้เป็นคนที่จริงจังกับชีวิตขึ้นมาได้ อีกทั้งยังช่วยให้เพื่อนผมอีกหลายคนที่เรียนปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตของตนจากวิชานี้เลย

วิชาแบบนี้มีไม่ได้บ่อยในรั้วมหาวิทยาลัย วิชานี้ไม่ใช่วิชาที่จะหาได้ในห้องเรียนที่เป็นทฤษฎีหรือหลักการที่ถูกต้องอยู่แต่ก่อน แต่เป็นวิชาที่เปรียบเสมือนการพัฒนาตัวเอง เพื่อให้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันเป็นส่วนใหญ่ เพราะ มีกิจกรรมที่หลากหลายและมีข้อคิดต่างๆในแต่ละคลาสเพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ถึงแม้คนที่ไม่ชอบทำกิจกรรมนั้น ก็สามารถมาเรียนได้แถมยังได้รู้จักเพื่อนในคลาสมากยิ่งขึ้นและสนิทมากกว่าเดิมจากตอนแรกที่ไม่เคยมีการสนทนากันมาก่อน

ต้องมาลองเรียนดูเเล้ว mindset บางอย่างในตัวคุณจะถูกอัพเกรด 55555 เป็นการพัฒนาตัวเองด้าน softskill เเต่ถ้ามาลองเรียนเเล้วอยากให้เปิดใจก่อนอย่าเพิ่งปิดใจ ถ้าเปิดใจรับอะไรใหม่ๆ เเล้ว คุณจะรู้ว่าคุณได้อะไรเพิ่มมากขึ้นเยอะซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีในห้องเรียนใดๆ

วิชานี้ไม่เหมือนวิชาที่เรียนในห้องเลย เป็นวิชาที่ไม่มีถูก ไม่มีผิด มันได้อะไรมากกว่าชื่อวิชาที่คนอื่นมองมา สอนให้รู้จักตัวเองและเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น ในอนาคตที่เราจะต้องทำงานเราก็จะเจอกับผู้คนที่ไม่รู้จักมากมาย ถ้าเราเข้าใจตนเองและผู้อื่นก็จะอยู่ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร หากใครที่ยังรู้สึกขาดตรงนี้อยู่ก็แนะนำวิชานี้เลยครับ

(ขออนุญาตคำหยาบ ฟีลเพื่อนแนะนำกันครับ)
มึงลองมาเรียนดูเว้ย วิชานี้ เชื่อกู ว่ามึงจะไม่เคยได้สัมผัสวิชานี้แบบนี้ในมหาลัยได้แน่นอน โดยเฉพาะในคณะวิศวะ นอกจากจะได้เรียนรู้ Soft Skill ที่ไม่ค่อยมีสอนแล้ว ยังเป็นการได้รู้จักตัวเองมากขึ้น แบบมึงอาจจะไม่เคยคิดถึงในอีกมุมมองนึงเลย การได้แชร์มุมมองกับเพื่อนในคลาสเป็นอะไรที่แม่งคือจุดขายวิชานี้สุด ๆ ยิ่งมึงมาเรียนกับเพื่อนสนิท หรือไม่สนิท มึงจะรู้สึกสนิทกับเขามากขึ้น หรือในแง่ความสัมพันธ์ที่มึงอาจจะมีปัญหา ในวิชานี้มีเครื่องมือที่มึงสามารถใช้จัดการได้ตลอดชีวิตมึงเลย ซึ่งบางทีกว่ามึงจะค้นพบวิธี มันอาจจะใช้เวลานานจนมันไม่ทันแล้วก็ได้ วิชานีhตอบโจทย์สิ่งนั้นเว้ย อีกจุดขายหนึ่งเลยนะ คือ หลังจากมึงเรียนแล้ว สิ่งที่มึงจะได้แน่ ๆ รู้ว่าตัวเองในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเป็นแบบไหน และใช่ วัยรุ่นหลายคนไม่ได้คิดถึงตรงนี้เท่าไร รวมถึงกูด้วย พอมึงเรียนแล้ว มึงจะค้นพบกับตัวเองที่มึงอยากเป็น คนที่มึงต้องการเป็น ไม่ว่าจะมีอุปสรรคนั้นจะเป็นอะไร

อยากให้มาลองอยู่แล้วเพราะที่ผ่านมา เรียกว่าเกือบจะตลอดชีวิตเราอยู่กับการเรียนที่เป็นอะไรเกี่ยวกับการวัดผลคะแนนทำข้อสอบฝึกทำแต่เรากลับ ไม่เคยลองมาทางศิลหรือในด้านนี้เท่าไหร่มากหนัก การเรียนวิชานี้เหมือนผมลองเปิดหัวตัวเองอีกด้านนึงซึ่งเป็นด้านที่ปกติแล้วอาจจะไม่ค่อยได้ใช้มากนักมันทำให้ไอเดียในหัวคิดไรได้มากขึ้นซึ่งคำตอบจะไม่เหมือนก่อนที่ในหัวจะมี คำตอบหรือวิธีเดียวสำหรับคนที่จะมาเรียนวิชานี้อย่างนึงที่ผมอยากแนะนำคือให้เปิดใจตัวเองก่อนมาเรียนอย่าอยู่แต่ในเซฟโซนตัวเองไม่งั้นจะไม่ได้อะไรให้เตรียมใจที่จะออกจากเซฟโซนตัวเองมาให้มากที่สุดครับ

วิชานี้เป็นวิชาที่สอนให้เข้าใจตนเองและการปรับทัศนคติต่างๆของตัวเราเองให้ไปในทางที่เหมาะสมมากขึ้นและยังได้ฝึกความคิดฝึกความกล้าแสดงออกต่างๆและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นที่เราก็ไม่คุ้นเคยนัก ซึ่งสรุปโดยรวมแล้วเป็นวิชาที่ทำให้ตัวผู้เรียนนั้นพัฒนาไปในด้านที่ดีขึ้นในเชิงความคิดและทัศนคติ

เป็นวิชาที่แบบ ถ้าหากไม่มีใครรับฟังคุณก็มาเรียนได้เพราะว่าทุกคนในวิชานี้ตั้งใจฟังอยู่เสมอและให้ข้อเสนอแนะดีๆหลายอย่างที่แบบมันก็ช่วยได้ในหลายเรื่องแล้วก็วิชานี้มันก็ทำให้ได้มีส่วนร่วมกับเพื่อนที่ปกติไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันเท่าไหร่ด้วยครับ และสุดท้ายก็คงบอกว่ามันไม่ใช่วิชาเดินป่าครับ55 เห็นเพื่อนหลายคนบอกว่าวิชานี้เป็นวิชาเดินป่าครับ55

ต้องมาเรียน เพราะจะได้อะไรมากกว่าวิชาปกติที่เรียนอยู่ มันจะไม่ใช่การเรียนรู้ทางเชิงวิชาการทั้งหมดแต่จะเป็นการเรียนรู้ให้กับตัวเองละฝึกในการเรียนกับผู้อื่นด้วย จะเข้าใจความเป็นคนและนิสัยต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นนอกจากนั้นอาจารย์ที่สอนก็น่ารักมากและใส่ใจคนที่มาเรียนทุกคนแต่อย่าเข้าคาบสายเด็ดขาด!! ผมเตือนละนะ และสุดท้ายมาเรียนเถอะครับมันได้อะไรมากกว่าที่คิดจริงๆ

โอกาสแบบนี้ได้ไม่เกิดขึ้นบ่อย ถ้าน้องเป็นคนที่พูดไม่เก่ง ไม่กล้าแสดงออก ขาดความมั่นใจ เข้ากับคนอื่นไม่ค่อยได้ หรือถ้ายังไม่รู้จักตัวเองแล้วอยากค้นหาตัวเอง มีปัญหาอะไรก็ตามในชีวิตที่ยังคิดไม่ตก แก้ไม่ได้ไม่ออกซักที ขอบอกเลยว่าวิชา Leaders นี้คือคำตอบแน่นอน

วิชานี้ไม่มีสอบมีแต่ทำกิจกรรมและงานตามที่อาจารย์ได้รับมอบหมาย โดยมากงานไม่ค่อยซับซ้อนขนาดนั้นเพราะไม่มีคำว่าถูกหรือผิด ถ้าเคยเรียนวิชาInnovative Thinking มันมาแนวเดียวกันเลยคือถ้าคุณไม่นอกลู่นอกทางยังไงคุณไม่มีทางตกวิชานี้ได้อยู่แล้วยกเว้นวิชานี้คุณต้องตื่นตัวในช่วงทำกิจกรรมเพราะบางครั้งจะมีคนให้ไมโครโฟนกับคุณแม้คุณจะนั่งเฉยๆ ข้อระวังของวิชานี้มีอยู่สองข้อคือ อย่าเข้าสายเพราะมีไม่กี่วิชาของภาคไออีที่เข้าสายแล้วจะต้องมีคนเสียเงิน และ ข้อสุดท้ายคืออาจารย์ถ้าทำตัวดีๆอาจารย์ไม่โกรธ ยกเว้นถ้าทำอะไรนอกลู่นอกทางเช่นคุยกันขณะวิทยาการบรรยายเพราะฉันเชื่อว่าอาจารย์วิชาอื่นในภาคไม่มีใครโกรธได้น่ากลัวเท่าคนนี้แล้ว

วิชานี้ไม่เหมือนทุกวิชาที่คุณเคยเรียนแน่นอนถ้าคุณเป็นคนชอบการคุยยิ่งแนะนำเลยครับเป็นการเปิดโอกาสได่คุยกับคนในภาคที่ไม่สนิท และได้ทำกิจกรรมในระหว่างเรียนเป็นสามชั่วโมงที่ไม่รู้สึกนานเลย

เป็นวิชาที่คุณนั้นต้องเปิดใจเพื่อรับสิ่งใหม่ๆเข้ามาแล้วจะเกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด ทั้งในด้านของกายและจิตใจเป็นการเรียนรู้และเข้าใจในสิ่งต่างๆรอบตัวมากขึ้น มีการสนทนาเชิงเล่าเรื่องบ่อยครั้งจึงต้องกล้าที่จะเปิดใจมาเรียนรู้กับความรู้สึกของตนเองและเพื่อนร่วมคลาส จะเป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆที่จะสามารถนำพาเราไปยังจุดที่ลึกที่สุดในใจของเราได้มันจะปลดล็อคสิ่งที่ติดค้างอยู่ภายในใจ เป็นเหมือนการผ่อนคลายเพื่อที่จะพัฒนาตนเองต่อไปในภายภาคหน้า:)

อยากจะชวนคนที่ไม่เคยเรียนให้มาลองเรียนวิชา leadership ดู มันไม่ได้มีโอกาสที่จะเรียนอะไรแบบนี้บ่อยๆ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่พูดไม่เก่ง ไม่กล้าแสดงออก ขาดความมั่นใจ เข้ากับคนอื่นไม่ค่อยได้ หรือถ้ายังไม่รู้จักตัวเองแล้วอยากค้นหาตัวเอง หรือมีปัญหาอะไรก็ตามในชีวิต ขอบอกเลยว่าวิชานี้มันจะตอบโจทย์คุณมาก ลองสักครั้งเถอะครับ ลองในตอนที่ยังมีโอกาสดีกว่าต้องมานั่งเสียใจในวันที่จบไปว่า ทำไมตอนนั้นกูมีโอกาสแต่กูไม่ลองทำมันวะ เพราะว่า ช่วงเวลามัธยมกับมหาลัยเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆในการค้นหาตัวเอง สมมติถ้าเราอยากทำอะไรให้ทำไปเลย โคตรได้เปรียบคนอื่น เพราะว่า เราในตอนนี้เรายังไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ต้องแบกในหัวมากเท่าไหร่ และก็มีวลาที่ค่อนข้างมาก แล้วผมรู้สึกว่าการที่หลายๆคนได้ลองตั้งแต่วัยมัธยมหรือมหาลัยมันคือบันไดไปสู่อนาคตของเรา ต่อให้เราอาจจะไม่ได้ทำตรงนั้นต่อแล้ว แต่การได้ลองมันทำให้รู้เพื่อพบว่าชอบหรือไม่ชอบ ถ้าเราไม่ชอบเราก็จะได้ตัดออกไปเลยตั้งแต่เนิ่นๆว่ามันไม่ชอบมันไม่ใช่ เพราะสิ่งที่น่ากลัวอีกอย่างคือไม่รู้ว่าตัวเองชอบไม่ชอบอะไร การที่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรคือมันเดินไปไหนไม่ได้เลย แต่การที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรเรายังตัดสิ่งที่ไม่ชอบออกได้ แล้วก็เดินไปทางที่ชอบได้ มันยังพอคลำทางถูก แต่การที่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร มันคือ stuck เลย ไปไหนไม่ได้เลย อันนี้ก็น่ากลัวเหมือนกันแล้วมันก็ไม่มีวิธีแก้ด้วยนอกจากลองไปเรื่อยๆ ลองในวัยเรียนมันดีที่สุดแล้ว เพราะล้มมามันยังไม่เจ็บมาก แล้วก็เรายังไม่ได้มีภาระที่จะต้องแบกขนาดนั้น แต่ถ้าเรามาลองต้องวัยทำงานนี้มันเสี่ยงประมาณหนึ่ง

โดยส่วนตัวทุกครั้งที่เรียน คลาสนี้เป็นคลาสเดียวที่ผมเล่าให้เพื่อนฟังเกือบทุกครั้ง เล่าให้พี่สาว เล่าให้หลายๆคนฟัง จนมีแต่คนบอกว่าดีอะ น่าเรียนมากและอยากเรียน และสิ่งที่อยากบอกคนที่ไม่เคยเรียนว่า วิชานี้อะ มันคือวิชาชีวิตเลย เป็นวิชาที่เรียนแล้วรู้สึกโครตคุ้มค่าทุกครั้งที่ได้เรียน เป็นวิชาที่เรียนแล้วมันใช้ได้จริงและต้องใช้มันด้วย อยากให้ทุกคนได้ลอง มันค่อนข้างพิเศษเลยทีเดียว มันอัพเกรดตัวผมในเวอชั่นที่ดีขึ้นได้จริงๆ มาเรียนเถอะ ถ้าไม่เรียนคือพลาดมาก โครตพลาด

เป็นวิชาที่ใช้ใจนะ ถ้ารู้สึกว่าอะไรก็ไม่รู้ ไม่อิน ยังไงก็ลองดูก่อน งานก็ไม่หนักด้วย ไม่ยาก ทำอะไรก็ไม่ผิด จะมาเอาเออย่างเดียวก็ได้ แต่อยากให้ลองดูไม่เสียหายเลย แล้วจะได้ประโยชน์อะไรบางอย่างอย่างที่คาดไม่ถึง อย่างน้อยก็ประสบการณ์และมิตรภาพดีๆ แต่จริงๆแล้วได้อะไรเยอะมากๆๆๆๆๆ ทุกด้านเลย การเรียน ในตำรา นอกตำรา การใช้ชีวิต แม้กระทั่งจะเอาไปจีบสาวก็ได้555 คอนเนคชั่น ได้อะไรเยอะเลย ได้กินข้าวฟรีด้วย คือดีมากๆเลยถ้ามีโอกาสต้องมาลงเรียนมันหาไม่ได้จากที่ไหนจริงๆ

วิชานี้เป็นวิชาที่มีความหลากหลายในสิ่งที่จะได้เรียนรู้ เป็นเรื่องที่แปลกใหม่ที่หาไม่ได้จากวิชาที่เรียนทั่วไป มีกิจกรรมให้ทำมากมายทำให้การเรียนไม่น่าเบื่อ เป็นวิชาที่สนุกสนาน ผ่อนคลาย เหมือนได้มาพักผ่อนจากการเรียนมาทั้งอาทิตย์แล้วได้มาเรียนวิชานี้ในวันศุกร์ตอนบ่ายยิ่งทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดที่เรียนในวิชาอื่นๆ เพราะมีกิจกรรมที่หลากหลายจากอาจารย์ จากวิทยากร ทำให้ต้องคอยติดตามอยู่ตลอดเวลาว่าเรื่องที่จะเรียนในสัปดาห์ต่อๆไปคือเรื่องอะไร และสนุกที่ได้ลุ้นว่าจะมีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้าง และเรื่องที่เรียนทุกเรื่องสามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันของตัวเองได้ ทำให้เรามีการพัฒนาในด้านความคิด อารมณ์ ความรู้สึก และที่สำคัญคือได้พัฒนาทักษะการเป็นผู้นำในตัวเอง
ถ้าเพื่อนๆหรือน้องสนใจในวิชานี้รับรองว่าไม่น่าเบื่อแน่นอน ได้ออกไปทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้แนวคิดใหม่ๆจากอาจารย์ จากวิทยากร และจากเพื่อนๆร่วมชั้นเรียน ทำให้ได้สนิทกับเพื่อนมากขึ้นอีกด้วย

เป็นวิชาที่ไม่เหมือนกับวิชาอื่นๆในภาคหรือคณะวิศวะเลยและยังต่างกับวิชาบูรณาการที่มีจุดประสงค์ในแผนการเรียนเขียนไว้คล้ายๆกันด้วยเป็นเพราะรูปแบบการเรียนที่ต้อง active ตลอดเวลาไม่ใช่การมานั่งเรียนทำให้ผลลัพธ์ของการเรียนแตกต่างกับวิชาอื่นมากๆ วิชาที่มีเป้าหมายในการเข้าใจเนื้อหาทางวิชาการอาจจะต้องใช้วิธีรับฟังการบรรยาย ฝึกทำโจทย์ปัญหาและสอบวัดผลแต่วิชาที่มีเป้าหมายในการพัฒนานิสิตด้านอื่นๆที่นอกเหนือจากเนื้อหาทางวิชาการเช่นพัฒนาการอยู่ร่วมกับคนอื่น พัฒนาEQ พัฒนาสุขภาพ หรือวิชานี้ที่มีจุดมุ่งหมายคือ ค้นพบศักยภาพและความถนัดของตัวเอง พัฒนาความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ทักษะในการสื่อสาร ทักษะในการอยู่ร่วมกัน รูปแบบในการเรียนวิชานี้ที่ต้องลงมือทำจริงในแต่ละหัวข้อเช่น เข้าใจและลดความขัดแย้งก็จะต้องมีการจำลองสถานการณ์ที่เกิดความขัดแย้งและแก้ไขความขัดแย้งนั้นด้วยการลงมือทำจริงด้วยการพูดคุยที่ได้รับรูถึงน้ำเสียง ภาษากาย อารมณ์ทุกอย่างซึ่งวิธีการเรียนรู้แบบนี้ได้ประสิทธิผลในการเรียนสูงมาก วิชานี้เลยเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่างๆดังกล่าวจริงๆเพราะถึงจะไม่มีการสอบหรือความเครียดจากการเรียนเนื้อหาวิชาการแต่ในแต่ละคาบที่เข้าเรียนก็ต้องใช้พลังกายและใจในการทำกิจกรรมต่างๆมากเพราะต้อง active ตลอดเวลาและกิจกรรมอื่นๆหลังคลาสเช่นการเขียนบันทึกการเรียนรู้และงานจิตอาสาก็ไม่ใช่งานที่ง่ายและสบายอย่างที่หลายคนคิดแต่สิ่งต่างๆที่ได้ทำนั้นก็ทำให้ทักษะต่างๆดังกล่าวพัฒนาไปเยอะขึ้นมากๆ
และวิชานี้อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ไม่เห็นความสำคัญของทักษะต่างๆดังกล่าวหรือคนที่ต้องการนั่งฟังแลคเชอร์อย่างเดียวและวัดผลด้วยการสอบอย่างเดียว
วิชานี้เลยเป็นวิชาที่สนุกมากและได้สิ่งจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตที่นอกเหนือจากความรู้ทางวิชาการ
วิชานี้เป็นเหมือนจุดแวะพักสุดท้ายก่อนจบออกไปสู่อีกstepนึงของชีวิตที่ช่วยขัดเกลาช่วยเติมทักษะบางอย่างที่ยังไม่ได้จากประสปการณ์ชีวิตที่ผ่านมาบางอย่างต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเข้าใจแต่วิชานี้มีบทเรียนที่ช่วยให้เข้าใจได้มากขึ้นในเทอมเดียว

วิชานี้เป็นวิชาที่เกี่ยวกับการส่งเสริมให้ตัวเองมีภาวะทางด้านความเป็นผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ไหนก็ตาม โดยส่วนตัวมีความคิดเห็นที่ว่าวิชานี้เป็นวิชาที่ค่อนข้างจะมีประโยชน์กับตัวเองเป็นอย่างมาก และคิดว่าถ้าหากเพื่อนๆหรือน้องๆได้มาลงเรียนวิชานี้อย่างน้อยจะต้องได้รับความรู้ในด้านการใช้ชีวิตอย่างแน่นอน เพราะว่าวิชานี้เป็นวิชาที่ช่วยสอนให้เราได้เรียนรู้ในแง่มุมต่างๆที่เราอาจจะไม่เคยมองเห็น มองโลกได้กว้างมากขึ้น ได้ลองคิดอะไรในมุมใหม่ๆดู ก้าวออกมาจากเซฟโซนของตัวเองบ้าง และยังเป็นเหมือนการกระชับมิตรกันในคลาสและยังทำให้ได้เรียนรู้และทำความเข้าใจใจตัวของผู้อื่นมากขึ้น




Comments