เมื่อฉันย้ายค่ายจากศูนย์ใจเป็นศูนย์ท้อง

ฉันสนใจและชอบเรื่องนพลักษณ์ ซึ่งเป็น Personality type แบบหนึ่งที่จำแนกคนเป็น 9 แบบ ซึ่งแต่ละแบบก็มีชื่อหรือคุณลักษณะหลักของลักษณ์นั้น เช่น ผู้ใฝ่สำเร็จ (Performer) หรือเจ้านาย (The Boss)

จากชื่อลักษณ์ ฉันและคนรอบตัวฉันไม่สงสัยเลยว่าฉันเป็นลักษณ์สาม คือ ผู้ใฝ่สำเร็จ เพราะฉันมุ่งเป้า ทำอะไรที่ตั้งใจไว้สำเร็จหลายอย่าง ขนาดไปเรียนมาแล้ว 3 workshops และฉันก็ทำสารพัด workshops มา และได้ภาวนา คิดว่าฉันรู้จักตัวเองมากเพราะสังเกตตัวเองมาเรื่อยๆ ฉันก็ไม่สงสัยว่าตัวเองเป็นสาม ที่ไปเรียนคราวนี้เพราะอยากเรียนหัวข้อที่ตามมาเพิ่ม

อ.ธนาและพี่หมูบอกว่าฉันเห็นตัวเองนั่นแหละ แต่แค่จัดลงไม่ถูกไทป์ พลังงานของฉันตรงไปตรงมา ดิบแบบสัญชาติญาณ ไม่นุ่มนวลแบบฐานใจ ซึ่งเป็นฐานของลักษณ์สาม สองคนนี้เห็นตั้งแต่แรกว่าไม่ใช่สามแน่นอน

ตอนแรกก็งงๆ และผิดหวังที่ดูตัวเองผิดมาตั้งนาน แต่เมื่อเอาตัวเองมาลงลักษณ์ที่ตรง มันอธิบายได้หลายอย่าง อันนี้เป็นลิสท์ของความตรงกับลักษณ์แปดของฉัน

  • ฉันเป็นคนเจ้าโทสะ เดิมไม่เก็บความโกรธเลย จะแสดงออกมาทันที แต่เมื่อแก่ขึ้น ฉันช้าลงและเห็นความหงุดหงิดได้เร็วขึ้น มันเลยไม่เป็นระเบิด แต่ฉันยังแสดงความรู้สึกทางหน้าอย่างชัดเจน เสแสร้งได้บ้างเมื่อจำเป็น
  • ฉันชอบความท้าทาย เดิมที่คิดว่าชอบแข่งขันน่ะไม่ใช่ ฉันชอบความตื่นเต้นเวลาที่ได้ทำอะไรที่ท้าทาย เช่น ขอทุนวิจัย เอานิสิตไปแข่ง เมื่อทำได้แล้ว ความท้าทายมันลดลง แล้วฉันก็เบื่อ ไม่ไปต่อให้สุด
  • ฉันทำหลายๆ อย่างสำเร็จเพราะฉันมั่นใจในตัวเอง มุ่งมั่น และทำงานหนัก เมื่อล็อกเป้าแล้ว ฉันจริงจัง ทั้งเรื่องงาน เรื่องความสัมพันธ์ เรื่องไปเที่ยว
  • เพราะว่ากิเลสของแปดคือ ความมักมาก (Lust) ฉันจึงสุดโต่งในด้านที่ฉันอิน ณ ขณะนั้น เช่น ฉันสะสมเครื่องประดับเงิน เสื้อผ้ามือสอง ชุดออกกำลังกาย ฉันมีเลกกิ้ง 130 กว่าตัว และสปอร์ตบราเกือบสองร้อยตัว ช่วงที่อินกับโยคะก็ไปฝึก 6 วันต่อสัปดาห์ วันละสองชั่วโมง ฝึกจนเจ็บข้อมือ เจ็บอก 
  • ความมักมากทำให้มักซื้อของอย่างเดียวกันทีละหลายชิ้น หรือซื้อเผื่อขาด 
  • ความสุดโต่งอีกอย่างคือ All or none attitude ทัศนคติแบบได้ทั้งหมดหรือไม่เอาเลย ด้านดีของมันคือทำให้มุ่งมั่น จะทำก็ทำให้สุด เช่น ฉันบอกนิสิตที่ให้ฉันเขียน Recommendation letters เพื่อสมัครทุนว่า ถ้าจะทำก็ทำให้ดีที่สุด ถ้าทำไม่ดีก็ไม่ต้องสมัคร ส่วนด้านมีดของทัศนคตินี้คืออาจจะไม่ประนีประนอม
  • ที่ฉันคิดว่าฉันชอบเที่ยว จริงๆ ฉันเสพความรู้สึกตื่นเต้น ชอบความแปลกใหม่
  • ที่ฉันเรียกว่า "การดูแลตัวเอง" ในหนังสือเรียกว่า "การปรนเปรอทางกาย" เช่น การนวดตัว นวดหน้า ออกกำลังกาย ซึ่งทั้งหมดผูกติดกับการพึ่งพาตัวเองได้และความแข็งแรง การเจ็บป่วยเป็นความอ่อนแอทางกายในระดับหนึ่ง
  • ฉันไม่ชอบความอ่อนแอ ฉันเพิ่งเข้าใจที่ฉันเคยรำคาญน้องสาว จริงๆ ฉันรำคาญบางอย่างของเขาที่ฉันแปะป้ายว่ามันคือความอ่อนแอ แต่ก่อน การคร่ำครวญทำให้ฉันรำคาญ
  • ฉันรังเกียจการเสแสร้งหรือการตอแหล เมื่ออยู่ใกล้คนที่ฉันเซ็นส์ว่าไม่จริงใจ ฉันอึดอัด เวลาคุยด้วย ฉันรู้สึกต้องปั้นหน้าตาม ทำให้เหนื่อยและจะหลีกเลี่ยงคนที่ฉันแปะป้ายว่าตอแหล
  • ฉันชอบวางแผน เช่น วางตารางตัวเอง จริงๆ ไม่ใช่เพื่อความมีประสิทธิภาพ แต่ฉันชอบควบคุม
  • (ไม่ชัวร์ว่าอันนี้ลักษณ์แปดไหม) ฉันมีอาณาเขต มีพื้นที่ส่วนตัว ของใช้ส่วนตัว คนของฉัน ถ้าคนอื่นจะใช้ของ ชอบให้ขออนุญาต ฉันไม่ชอบให้คนอื่นมาตำหนิลูกน้องของฉัน คนของฉันๆ จัดการเองได้  
  • การมองภาพใหญ่ ไม่ลงรายละเอียด เช่น ถ้าฉันดูแลโครงงานนิสิต ฉันให้เขาเล่าให้ฟังกว้างๆ ว่าไปทำอะไรมาบ้าง มีปัญหาอะไร แล้วกำลังจะทำอะไรต่อ ฉันไม่เจาะรายละเอียดถ้าฉันคิดว่าเขาทำถูก กึ่งๆ ไว้ใจ และกึ่งๆ ขี้เกียจ
  • ฉันชอบการกระทำ ชอบคิดไปทำไป ไม่เหมือนศูนย์หัวที่คิดวางแผนทั้งหมดแล้วจึงทำ ฉันมองว่าเราไม่รู้ปัญหาที่แท้จริงข้างหน้า ให้ลุยทำไปก่อน 
  • ฉันมั่นใจในความคิดของตัวเอง มองข้ามขีดจำกัดของตัวเอง เสียงในหัวบางทีจะบอกว่า Sky is the limit.  ฉันชอบด้านการมองโลกในแง่ดีของตัวเอง อ.ธนาบอกว่าแปด innocent  
  • ฉันรู้ความรู้สึกและความต้องการของตัวเอง สื่อสารได้ ไม่ลังเลที่จะขอความช่วยเหลือหรือสั่ง สำหรับฉัน ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ลองให้โอกาสเขาได้ช่วย
  • ฉันพูดและสื่อสารตรงไปตรงมา แต่ก่อนเป็นขวานผ่าซาก ฉันเห็นประเด็นตรงจุด และเลือกคำที่เข้าประเด็นให้กระชับและโดนที่สุด มันเป็นไปโดยอัติโนมัติ ถ้าเป็นเรื่องสำคัญ ฉันต้องการ High impact เล็งเป้าและยิงทีเดียวให้ทะลุเป้า อันนี้น่าจะเป็นประสิทธิผล (Efffectiveness) แต่ไม่ใช่ประสิทธิภาพ (Efficiency)
  • ฉันเผชิญหน้าได้ ไม่กลัว ฉันไม่อยากเหนื่อยโดยไม่จำเป็นก็จริง แต่ถ้าฉันต้องปกป้องตัวเอง ฉันมั่นใจว่าฉันทำได้ 
  • ลักษณ์แปดมีพลังงานแบบชาย (Masculinity) ฉันมีพลังงานแบบผู้ชายจริงๆ 
  • ฉันเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ คือ นำตัวเองได้ มั่นใจพอที่จะนำคนอื่น มีน้องแท้ๆ และลูกน้องตั้งแต่จำความได้ แต่ถ้าไมจำเป็น ฉันไม่นำเพราะเหนื่อยไป วุ่นวายไป
  • อ.ธนาบอกว่าฐานกาย"ขี้เกียจ" ฉันมีกิจกรรมเยอะ แต่ถ้ามีคนช่วย ก็จะสั่งให้เขาทำ ไม่ทำเอง กระทั่งเทอาหารจากกล่องใส่จานแล้วอุ่น ก็ให้คนอื่นทำให้ ถ้ามีวิธีสั้นๆ ที่จะทำงานให้เสร็จ ฉันจะใช้วิธีนั้น
  • อ.ธนาแนะนำว่า คนศูนย์ท้อง (ลักษณ์ 8, 9, 1) มีเส้นขอบเขต ถ้าล้ำเส้นดังกล่าวนี้จะเกลียดกันไปเลย คำแนะนำคือให้สื่อสารให้ชาวบ้านรู้ว่าเส้นเราคืออะไร ซึ่งฉันลองทำกับคู่กรณี สื่อสารแล้วโล่ง
  • การเลี้ยงดูในวัยเด็กที่ทำให้เป็นแปด พ่อฉันชอบคนฉลาดที่เอาตัวรอดได้ ไม่ต้องเป็นคนดี 
พอได้เห็นตัวเองอีกมุมหนึ่ง ได้รับคำอธิบายจากความเป็นลักษณ์ก็ได้ความเข้าใจเพิ่ม เมื่อใช้กรอบนพลักษณ์ ก็มีด้านที่เราควรปรับปรุง เช่น การรับว่าความเปราะบาง (Vulnerability) ไม่ใช่ความอ่อนแอ และความกล้าหาญที่แท้จริงมีความเปราะบาง No true courage without vulnerability.  ฉันขอบคุณคลาส Communication and Leadership ที่ฉันทำ ที่ทำให้ฉันยอมรับในแง่นี้

อีกด้านของการยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นคือฉันมีพลังมากขึ้น หมายถึงด้านเด่นของฉันแจ่มชัดกว่าเดิม ฉันรู้สึก Empowered.  คล้ายพลังที่มีอยู่ได้รับการมองเห็น

Comments