เอสโตรเจนและอารมณ์ของฉัน

น่าจะ 15/7/2020
เมื่อวาน ฉันไปฟังผลตรวจเลือด ไม่ใช่ตรวจร่างกายแบบฟังปอด ดูการเต้นของหัวใจหรือดูน้ำตาล แต่ตรวจเพื่อดูความอักเสบของร่างกาย วิตามิน ฮอร์โมนต่างๆ  ฉันฟังพ็อตคาสท์เกี่ยวกับ Functional Medicine ฝั่งอเมริกามาหลายปี รู้ว่าก่อนที่เขาจะให้คนไข้กินอาหารเสริม จะต้องประเมินก่อนว่าคนไข้เป็นอย่างไร

สิ่งที่ประหลาดใจสุดๆ คือ เอสโตรเจนของฉันสูงมากสำหรับคนในช่วงอายุนี้ และ Progesterone ต่ำ สองปีที่แล้ว ฉันเคยตรวจฮอร์โมน จำได้ลางๆ ว่า แอสโตรเจนต่ำและโปรเจสเตอโรนสูง (ถ้าโปรเจสเตอโรนสูง แอสโตรเจนจะต่ำ) 

โปรเจสเตอโรนในผู้หญิงและ Testosterone ในผู้ชายเป็น steriod ช่วยให้มีกล้ามเวลาออกกำลังกาย  ฉันเชื่อมาตลอดว่าฉันน่าจะมี Progesterone สูงเพราะออกกำลังกายแล้วเห็นโทนกล้ามเนื้อชัด ในขณะที่เพื่อนผู้หญิงของฉันที่เทรนหน้กและกินโปรตีนเยอะมากแทบไม่มีเลย

ฉันคิดว่าที่เอสโตรเจนดีดขึ้นมาขนาดนี้ น่าจะเป็นเพราะฉันกินสมุนไพรที่ช่วยบำรุงเลือดสตรี ทั้งของไทยและของอินเดีย และพลังงานชองฉันที่เปลี่ยนไป



สำหรับฉัน ข้อดีของ Estrogen สูงคือประจำเดือนมาตรงเวลา มาทุกเดือน ผิวพรรณละเอียดขึ้น ขนที่เคยขึ้นที่ท้องก็หายไป หมอบอกข้อเสียคืออารมณ์เหวี่ยง ซึ่งฉันเคยโทษคนรอบตัว และอาจเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก

ปี 2018 ยังดูแมนๆ อยู่
ฉันคนเดิมมี Estrogen ต่ำ พลังงานเป็นผู้ชายมากๆ ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก ทัศนคติ งานที่ทำ การพูดจา พูดกระชับ ห้วนๆ เข้าประเด็น ทั้งที่เป็นคนฐานใจ ฉันไม่ชอบการมีอารมณ์เยอะๆ ว่าไม่มีประสิทธิภาพ เสียเวลาทำงาน ใช้หัวหรือใช้เหตุผลดีกว่า พี่ณัฐเคยบอกเพื่อนเกย์ของฉันว่าให้สอนความเป็นผู้หญิงกับฉัน เพื่อนสนิทคนเดียวกันนี้ให้ข้อสังเกตว่า เมื่อฉันใกล้ถึงอารมณ์เปราะบาง ฉันจะตัดอารมณ์นั้นออก เปลี่ยนเรื่อง ไม่เข้าไปในความเปราะบาง

การหนีจากความเปราะบางของตัวเองก็คือการหนีจากตัวเอง ฉันจะไม่เข้าใจหรือรู้จักตัวเองมากขึ้นถ้าฉันหนีจากอารมณ์ตัวเองไปเรื่อยๆ  และเมื่อฉันไม่เข้าใจตัวเอง ฉันก็จะไม่เข้าใจใครเลยในจักรวาลนี้  

ไม่ได้หมายความว่าควรจมจ่อมกับอารมณ์ คือ ถ้ามีแรงจะดู อยู่กับอารมณ์ได้ ก็ควรจะอยู่ เพื่อดูให้เห็นความเป็นจริงของมัน (หลวงพ่อคำเขียนบอกว่า ให้เห็น ไม่ได้ให้เข้าไปเป็น)

ถ้าฉันอยู่กับอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ฉันก็จะอึดอัดเวลาอยู่กับอารมณ์หรือความทุกข์คนอื่น แล้วก็จะใช้วิธีแก้ปัญหาแทนการอยู่กับมัน

การดูแลคนใช้ความรู้สึก ไม่ได้ใช้เหตุผลแค่เพียงอย่างเดียว 

ฉันมองว่าการทำคลาส Leadership ทำให้ฉันได้ใช้ความเป็นผู้หญิงมากขึ้น ได้ดึงความเป็นแม่ออกมา รวมถึงฮอร์โมนเพศหญิงด้วย

Estrogen มันน่าจะทำให้ฉันมีเซ็นส์ที่ดีขึ้น ซึ่งช่วงนี้ ฉันคิดว่าเซ็นส์ฉันหรือสัมผัสที่หกฉันคมขึ้น แม่นขึ้น ขณะที่โค้ชคนอื่น ฉันรู้ว่าควรจะพูดอะไร คอนเน็คอย่างไร โดยที่ไม่ต้องคิด มันมาเอง 

ความเป็นผู้หญิงที่มากขึ้นนี้ ออกมาทางการแต่งกายที่เปลี่ยนไปด้วย ฉันชื่นชอบความเป็นผู้หญิงของฉันมากขึ้น ทั้งด้านความนุ่มนวล และความรุนแรงแบบเหวี่ยงๆ ของมัน 

ฉันคิดว่าทัศนคติ ความเชื่อ พลังงานของฉันที่เปลี่ยนไป ส่งผลกับเอสโตรเจนของฉัน ฉันไม่คิดว่าเป็นการกินหรือไลฟ์สไตล์เพียงอย่างเดียว  ฉันเชื่อความเป็นองค์รวมของร่างกาย ไม่ใช่ฮอร์โมนส่งผลต่ออารมณ์ แต่อารมณ์และพลังงานก็น่าจะส่งผลกับฮอร์โมนด้วย เหมือนที่มีการศึกษาว่าความเครียดหรือบาดแผล Trauma ส่งผลต่อยีนแบบที่ส่งต่อไปให้ลูกหลานได้ 

กูเกิลแล้ว ยังไม่มีคนศึกษาเรื่องความคิด/อารมณ์ต่อแอสโตรเจน มีแต่คนทำเรื่องผลของเอสโตรเจนกับอารมณ์ 

ในช่วงนี้ ฉันจะงดกินสมุนไพรบำรุงสตรีไปก่อน เพื่อให้ Estrogen ลดระดับ


Comments