สวยๆ ไป

เมื่อวาน ได้รับรู้ว่าคนรู้จักซึ่งเป็นหญิงสาวอายุ 42-45 ปี เพิ่งมีแฟนที่อายุน้อยกว่ามาก ส่วนเพื่อนสาวอีกคนที่อายุ 49 ปี ก็เพิ่งมีแฟนที่อายุแก่กว่า  ทั้งสองคนได้เดินทางภายในกันมาอย่างโชกโชนและยาวนาน ฉันคิดว่าเออ..ดีนะ ที่พวกเขาได้มีคนดูแลและมีคนให้ดูแล  การมีคนรักน่าจะเป็นอีกการเรียนรู้หนึ่งที่น่าจะเหมาะกับเขาในยามนี้

ที่ประหลาดใจในตัวเองคือ ฉันไม่รู้สึกอิจฉา หรืออยากมีบ้าง  ฉันคนเดิมจะขวนขวายอยากมีคนรักมาก ถึงขึ้นไปจีบเลย มีความล็อคเป้าที่ชายหนุ่มคนที่เรากำลังสนใจอยู่แล้วฉันจะพยายามมาก ทุกวิถีทาง ที่จะมี Air time กับเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เมื่อมองย้อนกลับไปแล้วก็ทึ่งในตัวเองว่าฉันมีความพยายามมากมายขนาดนั้น แล้วก็ล้มเหลวมาอย่างต่อเนื่อง  แต่นางก็พยายามต่อไป คนแล้วคนเล่า

อีกอย่างที่ชัดคือ ฉันมักจะตั้ง Password ต่างๆ เป็นคนที่ฉันอินอยู่ในช่วงเวลานั้น ถ้าเลิกอินแล้วก็จะเปลี่ยน Password

ถึงตอนนี้ ฉันรู้สึกเต็มอิ่ม มันไม่หิว ไม่ได้รู้สึกว่าอยากจะใช้พลังงานระดับนั้นกับคนอีกคนหนึ่ง และความสัมพันธ์เชิงโรแมนติก

จริงๆ ตอนนี้ฉันก็มีชายหนุ่มที่ฉันเอ็นดูมากๆ แต่เขาก็สาระน้อย และจริตในการใช้ชีวิตต่างจากฉันมาก จนฉันต้องปล่อยวาง  ไม่สามารถถือเอาเขาเป็นสรณะได้ ซึ่งเป็นบทเรียนที่ดีมากสำหรับคนช่างวางแผน อยากสำเร็จ เช่นฉัน

จริงๆ ฉันอาจจะหมกมุ่นกับตัวเองอย่างมากอยู่ก็ได้

สวยๆ ไป

ฉันชอบคำขวัญอันนี้ของมู  ช่วงนี้ก็ยืมมาใช้บ้าง สำหรับฉัน "สวยๆ ไป" มันแคปเจอร์ความมั่นใจ ความสวยภายนอกและภายใน มันทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองสวยจริงๆ



ในช่วงโควิดนี้ ฉันได้ทำในสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำมานาน เช่น จัดบ้าน ทำอาหาร แทบไม่เดินทาง ชีวิตฉันจึงสมดุลมากขึ้น งาน สุขภาพ การเงิน การใช้ชีวิต พอมันสมดุล ฉันก็ไม่รู้สึกพร่อง ไม่ได้อยากที่จะหาคนอื่นมาเติมให้เต็ม คือ มันไม่อยากเอง เหมือนกินอิ่มแล้ว ไม่ได้อยากกินอีก

"สวยๆ ไป" เกี่ยวกับเรื่อง Self esteem กับรูปลักษณ์มากขึ้นด้วย  ฉันค้นพบลุคที่เหมาะกับฉันมาก ที่ไม่เหมือนใคร ที่ได้โชว์ส่วนของร่างกายที่ฉันชอบมาก คือ บ่า ไหล่ ไหปลาร้า มีเพื่อนหลายคนมากๆ ที่ชม แต่น่าจะมีหลายคนที่แอบตำหนิอยู่ แต่ไม่กล้ามาบอก

ฉันรู้สึกว่าเสื้อผ้า Empower คนได้จริงๆ  เดิมก็รู้มาจากป้า Carolyn Myss ว่าเครื่องแบบมีหน้าที่ empower คนใส่ นาซีจึงมีเครื่องแบบให้ ฉันว่ามันเป็นการสร้างความรู้สึกชนเผ่าด้วย


Comments