Chakra and Archetypes

Credit: https://navutudreams.com/blog/chakras-
explained-the-7-chakras-you-need-to-know-about/
ช่วงนี้ ชั้นสนใจเรื่องพลังงานในเชิงเยียวยา (Energy Healing) จักระ Archetypes การฝังเข็ม มันเกี่ยวข้องไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

พี่ณัฐ ณัฐฬส ที่ชั้นนับถือเป็นครูคนหนึ่งพูดเรื่อง Archetypes หลายครั้งเวลาฮีพูดเรื่องตำนาน (Myth) ชั้นก็ไม่เคยสนใจอะไรกับมันมาก จนมาฟังป้า Carolyn Myss บรรยายเรื่อง Archetypes ว่ามันเป็นเครื่องมือในการใคร่ครวญตัวเอง ให้สังเกตพฤติกรรม ความคิด และคำพูดของตัวเองว่าตรงกับ Archetypes ไหน เช่น เด็ก เหยื่อ ตัวป่วน โสเภณี

ป้าพูดเรื่องจักระ (Chakras) หรือจุดพลังงานด้วย

Chakras 

เอาเรื่องจักระก่อน ชั้นว่ามีประโยชน์มาก ป้าบอกและเว็บทั้งหลายก็บอกว่าแต่ละจักระเกี่ยวเนื่องกับอารมณ์ซึ่งก็คือพลังงานด้านต่างๆ ของเรา  ถ้าเรามีปัญหาด้านไหน มันจะออกอาการทางกายตามบริเวณต่างๆ จักระเรียงจากล่างขึ้นบน ตามแนวกระดูกสันหลัง ดังนี้
  1. Root Chakra อยู่ตรงฝีเย็บ ว่าด้วยการเอาตัวรอด (Survival)
  2. Sacral Chakra ตรงท้องน้อย ใต้สะดือ ว่าด้วยความรัก ความสัมพันธ์ การเห็นคุณค่าในตัวเอง
  3. Solar Plexus Chakra ที่ท้อง เกี่ยวกับความเชื่อมั่นในตัวเอง  คนที่เป็นซึมเศร้ามีพลังงานตรงนี้น้อย
  4. Heart Chakra ตรงใกล้ๆ หัวใจ ชื่อก็ชัดเจนว่าๆ ด้วยความรู้สึก ความรัก ความเมตตา ความผูกพัน
  5. Throat Chakra ที่คอ ว่าด้วยการสื่อสาร/การแสดงออก การตัดสินใจ แรงบันดาลใจ 
  6. Third Eye Chakra ตรงหน้าผาก ระหว่างคิ้ว ว่าด้วยความคิด สติ สมาธิ
  7. Crown Chakra ตรงกระหม่อม ว่าด้วยจิตวิญญาณ Grace
(เว็บนี้ให้ข้อมูลเป็นภาษาไทยที่ครบถ้วนดี)

ตอนฟังป้าพูดใน Audible เราก็เชื่อว่าจักระเกี่ยวกับพลังงานในด้านต่างๆ แต่ไม่คิดว่าเราจะสัมผัสได้ ตอนชั้นไปเรียน Energy healing ครูให้ลองทำจักระสแกนด้วยมือที่อังเหนือจุดต่างๆ โดยไม่สัมผัสตัวคู่ ชั้นแสกนให้เพื่อนแล้วสัมผัสได้ว่าแต่ละจุดต่างกัน ของเพื่อนมีพลังงานใต้เอวที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับเหนือเอว แล้วเค้าก็มีประเด็นเรื่องเหล่านี้จริงๆ คือ รู้สึกว่าอยู่รอดด้วยตัวเองไม่ได้ และมีประเด็นเรื่องความสัมพันธ์

ชั้นเล่าเรื่องจักระให้เพื่อนที่มีปัญหาเรื่องมดลูก นางมีเลือดออกเยอะมากจนตัวซีด นางบอกว่ารู้สึกคลิก เพราะตอนที่มดลูกมีปัญหา เป็นเวลาที่นางทะเลาะกับน้องพอดี รุนแรงขนาดเอาตัวเองออกจากบ้าน  ตอนนี้นางกำลังรักษาตัวเองด้วยสมุนไพร อาหาร พลังงาน และเปลี่ยนวิถีชีวิต นางก็ยังรู้สึกว่ายังไม่หายเต็มที่ และคิดว่าคงต้องไปดูแลความสัมพันธ์กับน้องด้วยนอกจากดูแลร่าง

ส่วนเพื่อนอีกคนที่มีประเด็นกับพ่อ แม่และอดีตคู่ชีวิต นางก็เคยมีก้อนเนื้อในมดลูก 

เพื่อนอีกคนเป็นโรคต่อมไทรอยด์ทำงานมากไป ฮีมักตำหนิคนอื่นในที่ประชุมแรงๆ ในนามของความตรงไปตรงมา และสามารถต่อว่านิสิตในห้องได้ทั้งชั่วโมงเลคเชอร์ ชั้นคิดว่าอาการไทรอยด์มาจากพลังงานฮีด้านการสื่อสารด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องความเครียด

ชั้นเอง บางทีเวลาดุเด็กมากๆ ก็มีอาการเจ็บคอเหมือนกัน คงไม่ใช่แค่เพราะพูดมากไป

ท่าโยคะทั้งหลายทำเพื่อปรับสมดุลจักระเหล่านี้ มีท่าที่ช่วยดูแลแต่ละจุดโดยเฉพาะ

Archetypes

หลายๆ ครั้ง ชั้นมองว่าสิ่งที่พี่ณัฐสอนดูฝันๆ จับต้องยาก เช่น เรื่อง Myth หรือ Hero's Journey พอรู้จักกันไปนานๆ ชั้นพบว่าสิ่งที่ฮีพูด ฮีสอน มันใช้ใคร่ครวญตัวเอง เยียวยาตัวเองได้จริงๆ 
พี่ณัฐพูดถึง Joseph Campbell ที่นำเสนอเรื่อง Hero's Journey ว่าเป็นโครงเรื่องหลักของ Myth หรือหนังฮอลลีวู้ดจำนวนมาก เช่น Hunger's Game, Star Wars.  ชั้นซื้อหนังสือ Heros with a Thousand Faces ของ Campbell มาอ่าน อ่านได้ไม่เกินสองสามบทแรกเพราะเนื้อหาเยอะและภาษาไม่ง่าย แต่ไอเดียที่ชอบมากคือ ฮีบอกว่า เราเลือกครอบครัวและสภาพแวดล้อมที่เราเกิดมา ด้วยตัวเอง เพื่อเตรียมความพร้อมให้เราทำอะไรบางอย่าง แคมป์เบลยกตัวอย่างคนดังๆ หลายๆ คนประกอบสมมติฐานนี้

จริงๆ มันก็คล้ายๆ ที่เราสวดคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า เรามีกรรมเป็นแดนเกิด เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์

ชั้นพูดประโยคนี้ให้นิสิตที่เป็นซึมเศร้า ที่มีพ่อแม่ที่ทะเลาะและทำร้ายร่างกายกัน ว่า "เราเลือกครอบครัวและสภาพแวดล้อมที่เราเกิดมา ด้วยตัวเอง เพื่อเตรียมความพร้อมให้เราทำอะไรบางอย่าง" ชั้นไม่รู้ว่าฮีอินแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ คือ เพื่อนชั้นอินมากตอนชั้นเล่าให้ฟังว่าบอกนิสิตไปแบบนั้น เพื่อนบอกว่ามันช่วย Empower ฮีมากๆ  ฮีเป็นน้องคนเล็กที่มีพี่ ๔ คน แต่ฮีต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่มาก และต้องดูแลพี่ๆ ด้วย  คำพูดของ Campbell ช่วยให้เค้ามีพลัง

ป้า Myss สอนว่าแต่ละอาคีไทป์จะมีคำพูดหรือท่าทีประจำ โดยพื้นฐาน ทุกๆ คนจะมี ๔ ไทป์ คือ เด็ก เหยื่อ ตัวป่วน และโสเภณี ในแต่ละเวลาก็จะมีด้านเด่นที่แตกต่างกัน ป้าบอกว่าแต่ละไทป์มีไว้ช่วยเรา ให้อยู่ได้ แต่ละไทป์มีด้านมืดด้านสว่าง

เด็กนี่ก็ชัดเจน คือ ไม่อยากรับผิดชอบอะไร รักสนุก
โสเภณี คือ คนที่ขายจิตวิญญาณเพื่อเงิน เช่น เวลาเรายอมทำอะไรเพื่อเงินทั้งๆ ที่ไม่อิน
ตัวป่วน (Saboteur) คือ เสียงที่ถ่วงไม่ให้เราทำในสิ่งที่ควรทำ เช่น ข้ออ้างในหัวเวลาที่จะไปออกกำลังกาย
เหยื่อ คือ ตัวที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำ โทษคนอื่น สงสารตัวเอง

ชั้นฟังป้าเล่าถึงคำพูดประจำๆ ของแต่ละไทป์ ชั้นคลิกว่าเด็กที่ชั้นโค้ชอยู่น่าจะเป็นไทป์เด็กที่ถูกทำร้าย (Wounded child) ชั้นแปลลักษณะประจำ ด้านมืดและด้านสว่างของไทป์นี้ให้เด็กฟัง เค้าบอกว่าตรงเป๊ะ ปมของเด็กที่ถูกทำร้ายคือการให้อภัย ชั้นถามเค้าว่าเธอไม่ให้อภัยใคร เมื่อเค้าบอก เหมือนเราได้กุญแจว่าถ้าคลายปมการไม่ให้อภัยนี้ได้ ความเศร้าของเค้าจะจางไป และเค้าจะได้รู้ตัวด้วยว่าปมนี้มีราคาเป็นความเศร้าของเค้าเอง

ส่วนเด็กอีกคน ก็นั่งเล่าอะไรให้ชั้นฟัง ชั้นคลิกว่าเค้าน่าจะเป็น Eternal child เด็กที่ไม่ยอมโต ชั้นก็อ่านลักษณะของไทป์นี้ให้นางฟัง นางบอกว่าตัวแข็งเลยตอนที่ได้ยิน เพราะมันตรง เสียบเข้าไปในใจ


Comments