My Soul at Rest

หาดเทียน วันแรกที่มาถึง
สำหรับชั้นแล้ว การพักผ่อนคือการดูแลตัวเอง เช่น ออกกำลังกาย ฝึกโยคะ นวดตัว นวดหน้า ทำเล็บ เหล่านี้ชั้นทำอยู่แล้วเป็นประจำตอนอยู่กรุงเทพ แต่ชั้นรู้สึกว่าชั้นอยากไปที่อื่นที่พลังงานมันสงบนิ่งกว่าการอยู่กรุงเทพซึ่งแค่ขับรถออกจากบ้านก็เหนื่อยแล้ว

อีก Requirement หนึ่งของการพักผ่อน คือ ต้องไปคนเดียว อยู่กับที่ คนน้อย  ไปกับคนอื่นแล้วชั้นรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบชีวิตเค้าถ้าชั้นชวนเค้ามา ต้องเอ็นเตอร์เทนชาวบ้าน แค่พูดก็เหนื่อยละ ย้ายที่ก็เหนื่อย

ก่อนหน้านี้ ช่วงชั้นชอบภาวนา ชั้นก็พักผ่อนด้วยการปลีกวิเวก ไปภาวนาที่วัด ซึ่งดีตรงประหยัดเงินแต่บางครั้งไปวัดเสร็จ ก็ต้องมาดูแลร่างกายต่อ เช่น ไปนวดเพราะเดินจงกรมจนเมื่อย มันไม่ได้พักกายและใจ พักแต่ใจ

ตอนนี้แก่แล้ว อยากสบาย อยากนอนแอร์ อยากนวด อยากฝึกโยคะ อยากกินในสิ่งที่อยากกิน ไปวัดมันไม่ได้ตามใจกิเลส

ชั้นเล็งที่พักแบบรีทรีตมานาน เคยอยากไปชีวาศรม แต่มันก็แพงเกินไป เห็นอุ๊โพสเรื่อง The Sanctuary ที่เกาะพงัน ก็เลยตามมา อีเมล์มาจอง ซื้อตั๋วเครื่องบินเสร็จ เลือกมาช่วงปิดเทอม ซึ่งดีตรงที่เป็นหน้าฝน เป็น low season ของทะเล ทำให้ที่พักราคาถูกลงและไม่พลุกพล่าน

ปีที่ผ่านมาทำคลาส Leadership สำหรับนิสิตปริญญาตรีด้วยทั้งสองเทอม การคลุกวงในกับอารมณ์มนุษย์ดึงพลังของ Introvert เช่นชั้น  คล้ายมีลูก 14-17 คนในเวลาเดียวกัน การเปิดใจให้กว้างสำหรับเด็กๆ ใช้พลังงานและพลังเจตนาที่จะมีความหวังและไม่ตัดสิน

มาที่นี่ ชั้นซื้อโยคะแพ๊กเกจ ๓ วัน รวมที่พัก ๓ คืน คลาสโยคะ ๓ คลาส มีนวดวันละหนึ่งชั่วโมงสามครั้ง มี Healing class 1 ครั้ง มี Private yoga 1 ครั้ง มีซาวน่า ๓ ครั้ง  ชั้นเลือกที่พักแบบกลางๆ ไม่ได้แบบเบสิคสุด

ที่โคตรแพงคือตั๋วเครื่องบินมาลงสมุย แพงระดับไปฮ่องกงได้

ด้วยความที่มายาก ต้องต่อเรือจากสมุยมาพงัน ชั้นเลยอยู่ต่ออีก ๑ คืน เป็นห้าวัน สี่คืน

ความประหลาดเริ่มจากขึ้นเครื่องบางกอกแอร์เวย์มาสมุย คนไทยเป็นคนกลุ่มน้อยมาก ฝรั่งส่วนใหญ่  ถึงสมุยก็นั่งแท๊กซี่มาที่ท่าเรือ ต่อเรือมาพงัน บนเรือมีแค่ ๕ คน Exclusive สุดๆ

พอมาถึง ก็เช็คอินกับพนักงานที่พูดไทยไม่ชัด และบอกชั้นว่าพูดอังกฤษแทนได้ไหม ปรากฏว่าฮีเป็นกะเหรี่ยง ทีมสตาฟที่นี่ส่วนใหญ่เป็นกะเหรี่ยงจากตาก มีพม่าและไทยเล็กน้อย  ชั้นชอบปกากะญอ (เค้าเรียกตัวเองแบบนั้น แต่เราเรียกเค้ากะเหรี่ยง) ตอนไปเดินธุดงค์กับท่านโน้สแถวชายแดน ผ่านหมู่บ้านกะเหรี่ยงและได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ชั้นว่าที่นี่มีเสน่ห์ของ Karen hospitality

เซอร์ไพรส์อีกอย่างคือได้เจอชนินทร์ เป็นเพื่อนของเพื่อนชั้นหลายคน (มี common friends 31 คนบน Facebook) เช่น อุ๊ พี่ณัฐ แป๊ก (มธ.) ฮีทำงานเป็นผู้จัดการที่นี่ ชั้นเคยได้เจอเค้าที่พันพรรณ ที่งานแต่งงานเต้งที่ปัตตานี เจอกันครั้งแรกชั้นก็จำได้ และทักก่อน

ชนินทร์มีลุคแบบซินแสจีน คือ ยิ้มตลอดเวลา ดูเป็นมิตรมากๆ หน้าจีน ผมยาวแล้วรวบ มีเครา goatee ใส่แว่นกลมๆ ตัวไม่สูง เดินไปเดินมาไม่ใส่เสื้อ ผู้ชายที่นี่ไม่ใส่เสื้่อ ยกเว้นพนักงาน

ฮีบอกว่าที่นี่มีแต่คนแปลกๆ มา ชั้นก็...เหรอ..คอนเฟิร์มอีกครั้งว่าชั้นแปลกจริง ชั้นว่าคงแปลกที่รสนิยมไม่กระแสหลักเหมือนคนไทยทั่วไป อ้อ.. ชั้นเป็นลูกค้าคนไทยคนเดียวของที่นี่

ฮีเล่าว่า ลูกค้าบอกว่าหินที่อยู่บนเกาะนี้เป็นคริสตัล เพิ่มพลังงานที่ดีให้เรา ถ้าเราอธิษฐานหรือมีความตั้งใจบางอย่าง ความตั้งใจนั้นจะปรากฏ มีไม่กี่ที่ๆ พลังงานดีๆ แบบนี้ ที่อื่นก็เช่น บาหลี เกาะอีบิซ่า

เดิมชั้นแอนตี้พงันเพราะ Full-moon party ชั้นเลือกที่จะมาให้ไม่ตรงวันเสาร์อาทิตย์เพราะปารตี้ดังมาก ขนาดที่รีสอร์ตมีที่อุดหูให้

โค้งหาดเล็กๆ ที่ชื่อหาดเทียนนี้ ฮีบอกว่าเหมือนมดลูก

ปกติชั้นชอบป่าและภูเขามากกว่าทะเล ที่นี่มีทั้งสองอย่าง ต้นไม้เยอะมาก ทำให้ชอบมาก
Lentil Salad

สามวันแรกที่มาถึง ชั้นแปลกใจที่ตัวเองหลับในทุกๆ ทรีตเม้นที่ทำ เช่น นวดตัว นวดหน้า นวดท้อง ขนาดนวดท้องซึ่งไม่ได้สบายขนาดนั้นก็หลับ ทั้งๆ ที่ตอนกลางคืนนอน ๘ ชั่วโมง ทำให้ชั้นรู้ตัวว่าชั้นนอนไม่พอตอนที่อยู่กรุงเทพ ขนาดที่มาเก็บส่วนที่ขาดที่นี่

ชั้นฝึกโยคะทุกเช้าในวันที่สอง สาม สี่ ตอน ๘ น. วันที่สองได้ฝึก Yin yoga ตอนค่ำด้วย ผ่อนคลายแทบจะหลับ

ชั้นนวดอะไรซักอย่างทุกวัน ว่ายน้ำทะเลทุกวัน (ปกติมาทะเลแต่จะไม่ว่ายน้ำทะเล ว่ายน้ำสระ What a loser!) ซาวน่าแทบทุกวัน

สาวๆ ที่นี่อาบแดดกันแบบ no bra อยู่แค่สามวันก็เห็นจนเบื่อแล้ว

ที่นี่ไม่มีสัตว์บกให้บริโภค เป็นผัก ไม่ก็อาหารทะเล ทำให้ชั้นถ่ายโคตรดี วันแรกๆ ลำไส้ปรับตัว ลมเยอะ วันนี้เป็นปกติแล้ว

อีกเซอร์วิสหนึ่งที่คนใช้เยอะแต่ชั้นไม่ได้ใช้คือล้างพิษ Detox ด้วยการสวนลำไส้และอดอาหาร ชั้นมีคอร์สแล้วที่กรุงเทพ เลยไม่ได้ทำ

ชั้นใช้ AIS ซึ่งมีสัญญาณบ้าง ไม่มีบ้าง แล้วแต่สภาพอากาศ ซึ่งดี คนโทรตามไม่ได้ แต่มีไวไฟให้ใช้  ไฟฟ้ามาจากเครื่องปั่นไฟ ส่วนน้ำมาจากแหล่งธรรมชาติบนเขา ชอบที่เค้ามีจุดให้เติมน้ำดื่มจากเครื่องกรองน้ำ ไม่ใช้น้ำขวด

Candle-lit Yin Yoga Class at Buddha Hall
กิจกรรมเยียวยาที่แปลกมากที่ชั้นทำคือ เยียวยามดลูก (Womb healing) แม่หมอชื่อมิเรียม เป็นคนโปรตุเกส ตอนแรกก็สัมภาษณ์ก่อนว่าทำไมมาทำ นั่นนี่ ชั้นทอดตาไปมองที่อื่นเพราะกำลังคิด นางดุแล้วบอกว่าช่วยมองตาชั้นเวลาคุยด้วย ก็เลยโอเค มองก็มอง

เค้าอธิบายว่าเราอยู่ในสังคมโลกของผู้ชายซึ่งกำหนดโดยพระอาทิตย์ ทำให้ปีหนึ่งมีสี่ฤดูกาล แต่ฤดูกาลของผู้หญิงถูกกำหนดด้วยพระจันทร์ ซึ่งมี ๔ ฤดูกาลใน ๑ เดือน คือ ผู้หญิงมี cycle ของตัวเองที่ไม่ตรงกับ cycle ของสังคมปัจจุบันที่เป็นผู้ชาย ทำให้ร่างกายเรารวนถ้าไม่ตระหนักรู้

นางให้ชั้นนอนหงาย หลับตา เปิดเพลงเบาๆ พูดนำภาวนา แป๊บเดียวชั้นก็หลับ หลับๆ ตื่นๆ ได้ยินเสียงเค้าพูด เสียงเค้าบำบัดเรา รู้สึกตัวตอนเค้าแตะร่างกายเรา

พอหมด session นางอธิบายให้ชั้นฟังว่าชั้นละเลย ไม่สื่อสารกับมดลูกหรือความเป็นผู้หญิงของตัวเอง นางบอกวาผู้หญิงมี Archetypes 4 แบบ คือ Maiden หรือนักรบ, Mother, Enchanter/Flirter, Elder/Wise woman หรือเข้าถ้ำเพื่อรักษาพลัง.  ชั้นมีแต่ด้าน Maiden ด้านที่ไม่ได้ทำแน่ๆ คือ Enchanter ซึ่งเป็น healer ด้วย ถ้าชั้นไม่ได้ใช้ด้านเฟลิตนี้ แปลว่าชั้นละเลยความเป็นผู้เยียวยาของตัวเองด้วย

มีเรียมแนะนำให้ชั้นบันทึกวันเริ่มและวันหมดประจำเดือน และถ้าปวดมดลูก ให้จดแบบแผนที่ว่าปวดตรงไหน (อยู่กรุงเทพ ชั้นมักจะรู้สึกไม่สบายที่มดลูก ลามไปถึงหลังล่างเวลาที่ชั้นเครียด) ให้จดสองสามเดือน แล้วอีเมล์ให้นางดู แล้วนางจะแนะนำต่อ

นางพูดอีกว่าชั้นมักจะไม่พูดจากมดลูก ชั้นตีความว่าไม่ได้พูดตอนที่ตัวเองมีสติ (Grounded) ถ้าพูดตอน Grounded จะทำให้มีพลังมาก ซึ่งชั้นเห็นด้วย ในเวิร์คช็อปของอ.ล่าสุด ชั้นพบว่าเวลาชั้นแชร์ ชั้นมีพลังดึงดูดคนทั้งห้องให้ฟัง

ชั้นพบว่าพอทำ Womb healing เสร็จ ชั้นไม่มีอาการหลับทุกทรีทเม้นอีกต่อไป พอไปนวด Hot stone ชั้นก็ตื่นตลอดที่เค้านวดให้ แต่กลางคืนก็นอนหลับตามปกติ ช่วงนี้ใช้กลิ่นที่ช่วยผ่อนคลายหยดที่หมอนให้หลับสบาย

ท้ายสุด ให้ชนินทร์ดูไพ่ยิบซีให้เรื่องที่ตัดสินใจไม่ได้ซักที พบว่าเราก็ตีความไพ่อย่างที่เราอยากให้เป็นอยู่ดี คือ อยู่คนเดียวอ่ะดีแล้ว ถ้าเอามนุษย์อื่นเข้ามาด้วยแล้วชั้นไม่พอใจซะที

การได้คุยกับชนินทร์เป็นของขวัญ surprise gift ของการมาพักคราวนี้

ชั้นคิดว่าการจัดสรรเวลาให้ตัวเองแบบนี้ได้เป็นอภิสิทธิ์ของคนโสดที่มีเงิน เวลา และความบ้าเช่นชั้น รู้สึกโชคดีมากที่ไม่ต้องไปรายงานตัวกับใคร หาเวลาให้ตัวเองมาได้ มันสำคัญกับ Well being ของชั้นมาก คือ ชั้นจะดูแลคนอื่นได้ดีถ้าชั้นดูแลตัวเองดี ชั้นกะว่าจะมาอยู่ซักอาทิตย์หนึ่งปีหน้า

Comments