The New Normal

น้ำตกเหวสุวัต ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่จะเล่า
แค่อยากมีรูป
ชั้นเคยได้ยินว่าสายจิตบำบัดบางสายเชื่อว่า การเสพติดทุกชนิดเป็นอาการของความโดดเดี่ยว ไม่ว่าจะเป็นติดช้อปปิ้ง ติดเซ็กส์ หรือว่าติดอาหาร ติดผอม

ในปีที่ผ่านมานี้ ชั้นทำคลาส Communication and Leadership สองเทอม เทอมแรกชั้นยังทำตัวไม่ถูก ยังไม่รู้ว่าจะเจออะไร ชั้นยังไม่ได้เข้าไปคลุกคลีกับชีวิตพวกเค้ามากนัก เด็กปี ๔ ของเทอมแรกดูเผินๆ เป็น "เด็กดี" คือ เกรดดี พฤติกรรมในห้องเรียนดี มาจากครอบครัวที่พ่อแม่ยังไม่แยกทางกัน (จริงๆ ก็คงไม่เป็นเด็กดีหรอก ยังขุดไปไม่มากเลยไม่คอนเฟิร์ม)

ปัญหาที่เด็กล็อตนี้มีก็เรื่องความอกหักที่ยังค้างคาใจ การกังวลไปหมด กลัวที่จะออกนอกกรอบ พ่อป่วย การอยากได้รับการยอมรับจากเพื่อนหรือพ่อแม่ พ่อแม่บงการชีวิต บังคับให้มาเรียนวิศวะ การสื่อสารกับพ่อแม่

เทอมที่สองนี้ เด็กที่มาเป็นเด็กภาคพิเศษ ซึ่งเกรดเฉลี่ยในภาพรวมน้อยกว่าภาคแรก หลายคนแทบไม่เข้าเรียนเลยถ้าไม่ชอบวิชาหรืออาจารย์ที่สอน หรือว่าเรียนเช้า พื้นฐานครอบครัวแตกต่างจากเด็กเทอมแรกมาก เช่น 1/3 มาจากครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกัน ประมาณ 25% เคยพยายามฆ่าตัวตาย (Sample size = 17)

ชั้นมีสมมติฐานว่า การที่พ่อแม่หย่าร้างส่งผลต่อความมั่นคงทางใจของเด็กอย่างมาก ความมั่นคงทางการเงิน (เพราะเหลือคนหาเงินแค่ข้างเดียว) และท้ายที่สุด ส่งผลต่อการเรียน  เทอมหน้าชั้นจะให้นิสิตสำรวจเรื่องนี้อย่างจริงจังว่า การหย่าร้างส่งผลต่อผลการเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติหรือไม่

ปัญหาของนิสิตเทอมสองนี้จริงจังและรุนแรงกว่าเทอมแรกมาก ก่อนหน้าที่จะหย่าร้างกัน ก็ต้องทะเลาะกันให้ลูกเห็นก่อน หลายเคสทำร้ายร่างกายกัน เมื่อเด็กเห็นคนที่เป็นรักแรกของเค้าทำร้ายกัน เด็กก็มีอาการซึมเศร้า และหลายคนเคยพยายามฆ่าตัวตาย

ชั้นให้เขียนมุมมองต่อชีวิต (Life view) นิสิตทั้งสองเทอมไม่ค่อยเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม หรือว่าบาปบุญว่ามีจริง ทั้งหมดบอกว่าทำงานเพื่อเงิน

ชั้นรู้สึกใจหายที่พื้นฐานหลักของสังคม เช่น ครอบครัว และ ความเชื่อ ไม่อยู่ตรงนั้นแล้วสำหรับเด็ก แล้วเด็กจะยืนอยู่บนอะไร  สิ่งที่เหลือก็น่าจะเป็นสิ่งที่จับต้องได้ เช่น เงิน หรือแฟน

เป็นเรื่องปกติมากที่นิสิตเดี๋ยวนี้พักอยู่กับแฟนเป็นเรื่องเป็นราว การมีเซ็กส์เป็นเรื่องปกติ

หลายคนใช้แอพ Tinder เพื่อหา"คนคุย" หลายคนก็ใช้หา One-night stands เราเริ่มเห็นซิฟิลิสระบาดในหมู่คนหนุ่มสาว แต่ลดลงในกลุ่มคนขายบริการ 

จริงๆ การมีเซ็กส์หรือไม่ไม่ใช่ประเด็นสำหรับชั้น แต่ชั้นแค่รู้สึกว่าตอนนี้หลายคนมีเซ็กส์เพื่อสร้างความใกล้ชิด (Intimacy) ช่วยเติมเต็ม ทดแทนความโดดเดี่ยว เซ็กส์สร้างความใกล้ชิดที่รวดเร็ว ทันที ไม่ต้องคุย แฮงเอ้าท์ หรือดูใจอะไรกันมากมาย น่าจะช่วยให้หายโดดเดี่ยวได้ชั่วคราว จนกว่าจะมีอีกครั้งใหม่

ชั้นแค่... แล้วจะยังไงวะ.. มันจะวนลูปไปอย่างนี้เหรอ

ชั้นบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอะไร ไม่ได้กังวล แต่แค่รู้สึกว่าเรื่องผิดปกติกำลังกลายเป็นเรื่องธรรมดา The new normal.

ชั้นกับเพื่อนที่อายุ ๔๐ กว่าๆ เหมือนกันเห็นตรงกันว่าปัญหาของเด็กเดี๋ยวนี้ซับซ้อน เหมือนช่วงอินโนเซนต์มันสั้นลง ถูกเร่งให้โต

Comments