เทอมนี้ของฉัน (Week 3)

ตอนนี้เริ่มอยู่ตัวละ ไม่ได้กังวลอะไรกับวิชาที่สอน สัปดาห์นี้ส่ง Proposal เพื่อขอเงินคณะจัด Workshop สำหรับอาจารย์แล้วต้องกลับมาแก้ แจกแจงเรื่องเงินให้ละเอียด ไปขอแนวทางจากทางการเงินแล้วก็แก้ไป

สิ่งที่ทำเพิ่มในสัปดาห์นี้คือ การเขียน Reflections ที่นอกจากจะถามว่าคาบนี้ได้เรียนรู้อะไร ยังถามว่ามีคำถามอะไรสำหรับอาจารย์บ้าง Trick นี้ได้มาจากอ.บอล อ.ในภาคตัวเอง

Simulation

ชั้นใช้ Weekly Quiz เพื่อให้มาตรงเวลา ส่วนหนึ่งเป็นวิธีได้ Feedback ของชั้นและบีบให้เด็กตามคลาสไปเรื่อยๆ เก็บคะแนนด้วย ใช้มาตลอดกับนิสิตป.ตรี ให้ทำสั้นๆ แล้วเฉลยเลยเป็นการทบทวน

ชั้นพบว่าชั้นถามคำถามมากขึ้น เช่น ตอนก่อนเริ่มเข้าหัวข้อ Simulation ที่เดิมชั้นมักจะบอกตรงๆ เลยว่า เพราะว่ามีความไม่แน่นอน การวิเคราะห์แบบที่สมมติว่าพารามิเตอร์ทุกตัวเป็นค่าคงที่จึงไม่ถูก และไม่สามารถตอบคำถามเชิงความเสี่ยงได้ งวดนี้ชั้นไม่บอก แต่ถามว่า จากที่ไปฝึกงาน คิดว่ามีปัจจัยไหนที่เป็นค่าไม่แน่นอน แล้วส่งผลกับ KPI อะไรบ้าง ก็ไล่ไปให้ครบทุกคน ใช้เวลามากขึ้น แต่ชั้นอยากสร้างจากสิ่งที่เค้ามี  ทุกคนสังเกตเองได้ว่าอะไรไม่แน่นอนในโจทย์ที่เจอมา  อันนี้ไม่ได้แพลน มันไหลมาเองเวลาเรา Buy into the teaching philosophy มันเหมือนเป็น mindset อ่ะ ไม่ใช่วิธีการซะทีเดียว



ชั้นเริ่มเล็กเชอร์ตรงๆ น้อยลง อธิบายให้ฟัง แล้วก็ให้เด็กทำเคสเองบน Excel คิดว่าเด็กทำได้แล้วก็ทำได้จริง มีโลจิกแล้ว อธิบายนิดเดียวก็ไปได้ละ ส่วนคนที่ช้าหน่อย ก็ให้เพื่อนที่ทำเสร็จก่อนไปช่วย  ชั้นสั่งมากไปหน่อย น่าจะ Request มากกว่านี้ 

ชั้นเดินตอบคำถาม ช่วยโค้ชเด็ก บางทีงงๆ กับเด็กปี ๔ ที่ถามว่าสูตรเอ็กเซลอันนี้ใช้อย่างไร ชั้นบอกว่าให้กูเกิ้ลเอา  มีบางคำถามที่เกี่ยวกับสิ่งที่เรียนไปแล้ว เช่น PDF (Probability density function) ย่อมาจากอะไร แล้วชั้นก็รู้สึก Cynical ว่าเราควรจะเลิกเรียนหนังสือไปเลย เอาแค่อ่านออก เขียนได้ ที่เหลือกูเกิ้ลเอา เพราะเด็กๆ จำสิ่งที่เรียนไม่ได้อยู่ดี ชั้นไม่แน่ใจว่ามันสะท้อนความที่เด็กไม่อิน ไม่ Connect กับสิ่งที่เรียนหรืออะไร  อีกอันที่ทำให้เคืองคือเวลาเด็กทำแบบใช้กระดูกสันหลัง คือ ไม่ผ่านสมอง 

เด็กหลายคนหัวดี แต่ได้เกรดแย่มากในบางวิชา คาดว่าการได้เกรดดีน่าจะอาศัยทักษะอย่างอื่น

รู้สึกการมีระฆังหมดคาบมันผิดธรรมชาติการเรียนรู้ของมนุษย์อย่างที่ Sir Ken Robinson บอก มันยังไม่แล้ว แต่ก็ต้องเลิกคาบ

สัมมนาป.โท 

เชิญหม่องมาทำผู้นำสี่ทิศ ชั้นเตรียมทำตามในวันถัดมา คาดว่าปีหน้าจะทำเองแล้ว นิสิตอินมาก ดูได้ประโยชน์มากๆ จากเรื่องที่เรียน

Operations Research 1 

เด็กเข้าไปดูวีดีโอที่ชั้นโพสไม่ได้ รู้ตอนเดินสวนกันแล้วเด็กถาม ก็งงๆ ว่าทำไมไม่ถามในเฟสบุ๊ค เรารู้สึกว่าเด็กยังมีระยะกับเรา (Rank) ไม่กล้าถาม เราคิดว่าเกมช่วยได้

ให้ทำ Quiz แล้วให้เล่นเกม Blending Problem เทอมที่แล้วพบว่าเด็กไม่เข้าใจโจทย์ว่าเรามีทรัพยากรจำกัดแล้วเราพยายามหาค่าที่ดึที่สุด  Very simple linear programming problem เลยให้เล่นเกมก่อนเลย เราซื้อเลโก้มา ก็ได้เอามาใช้  ให้จำนวนโลโก้จำกัด (ตาม Resource คอลัมน์ขวาสุด) แล้วให้หาจำนวน Product 1 and 2 (ราคาไม่เท่ากัน) ที่ทำให้ Profit สูงสุด ได้เกมนี้มาจากในเน็ต พบว่าเด็กสามารถหา Optimal solution เจอได้ด้วยมือเปล่า เก่งมากๆ การให้เค้าทำเองแล้วเค้าทำได้ ทำให้เรามี Respect กับเค้าว่าฉลาดเหมือนกัน เด็กดูเอ็นจอยมาก

ชั้นพลาดเขียนพารามิเตอร์สลับกันบนกระดานด้วย แล้วเด็กชี้ให้เห็นว่าอ.เขียน Profit per unit บนกระดานสลับกับในชีท ก็เลยไม่ได้คำตอบเดียวกันกับที่เตรียมไว้ ชอบเวลาที่เค้าเห็นที่ๆ เราผิด 


แล้วก็สอน Graphical methods สำหรับปัญหานี้ แล้วให้ทำ Confirm อีกทีบนเอ็กเซล

ได้โจทย์จากในเน็ตก็ให้ทำซ้ำ  ชั้นแจกโจทย์บนกระดาษแล้วให้เด็กทำเอง ช่วยอธิบายนิดหน่อย เดินช่วยไกด์ เด็กน้อยก็ดีทำให้ดูได้ทั่ว

ข้อดีของ OR คือมันเป็นเรื่องที่จับต้องได้และเค้าเห็นว่าจะเอาไปใช้อย่างไร เด็กบอกว่าในหัวข้อที่จับต้องยาก เช่น Dynamics เค้าไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้อย่างไร  อันนี้อยากฝากอ.ทั้งหลายให้ช่วยเชื่อมโยงให้เด็กด้วย

ปิดแบบรีบๆ  มีเด็กคนหนึ่งซึ่งดูเนือยมาก ชั้นสังเกตการณ์ก่อนว่าเป็นอย่างไร ต้องไปทำการบ้านก่อน แล้วค่อยคิดว่าจะจัดการอย่างไร ไม่อยากใส่ใจจนเสียอารมณ์

จำชื่อเล่นเด็กได้ทุกคนละ 

Communication and Leadership: ผู้นำสี่ทิศ


เปิดด้วยการให้แสดงความรู้สึกผ่านท่าทาง ของตัวเอง แล้วทำเลียนแบบเพื่อน และให้แสดงท่าจาก Feeling cards ที่จับได้ พบว่าเด็กวิศวะเล่นใหญ่ไม่ค่อยเป็น ชั้นว่าชั้นไม่ค่อยทำท่าแล้ว พวกมันยิ่งกว่า

ชั้นทำผู้นำสี่ทิศเองเป็นครั้งแรก  อธิบายแต่ละทิศเร็วกว่าหม่องอธิบาย ให้เด็กแบ่งลงกลุ่มย่อย ให้เด็กตอบคำถาม แชร์วงใหญ่ ปรากฏว่าในกลุ่มนี้มีหมีแค่ตัวเดียว ชั้นไปนั่งเป็นเพื่อนหมี ช่วยถาม 

ชั้นคิดว่าเด็กๆ เห็นตัวเองได้ชัดกว่าผู้ใหญ่บางคนที่ชั้นเคยเจอ ที่ไม่หนูเลย แต่คิดว่าตัวเองเป็นหนู เหมือนเป็น Safe landing แล้วผู้ใหญ่พวกนี้สับสนมาก เด็กๆ หาทิศตัวเองเจอทั้งหมด

ตอนถามข้ามทิศ สนุกมาก ตลกมาก เด็กๆ แชร์และจับประเด็นได้ ชั้นทำหน้าที่ Facilitate และเน้นประเด็นที่น่าสนใจ หรือประเด็นที่อาจจะเข้าใจผิด เช่น คิดว่าหนูเป็นผู้นำไม่ได้ ก็อธิบายเพิ่มไป  เสร็จแล้ว Reflect วงใหญ่ว่าวันนี้ได้เรียนรู้อะไร 

ดีใจที่ตัดสินใจที่จะทำคลาสนี้ ตอนแรกเกือบถอยแล้วเพราะรู้สึกกลัวไม่สำเร็จ กลัวเด็กไม่ชอบหรือไม่มีคนลง ชั้นรู้สึกว่าได้ข้ามขอบตัวเองไปหลายช็อตมากกับคลาสนี้ การลงทะเบียนทำให้เรา Commit มีเด็กสนใจมานั่งเรียน แล้วก็หายหัวไป

Comments