แวะลอนดอน

​เรื่องที่พบว่าแปลกคือ เดิมเราชอบเดินดูในพิพิธภัณฑ์มากๆ โดยเฉพาะงานศิลปะหรือโบราณวัตถุ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ (ยังงงว่ามาเป็นวิศวกรได้ไง) พอมางวดนี้ เราก็ไปดูนะ แต่ไม่อินเหมือนเคย ไม่ได้เช่า Audio guide เพื่อฟังข้อมูลงานที่เป็นไฮไลท์อย่างละเอียด ไม่ได้กลัวเปลืองเงิน แต่เฉยๆ น่ะ คือมันก็สวยนะ ภาพวาด แต่ก็คิดว่า ทำไมฉันไม่ไปดูของจริงวะ มาดูของจำลองทำไม แต่ก็เป็น "ความจริง" อีกแบบหนึ่ง ที่ผ่านมุมมองของผู้วาดน่ะ คิดว่าแก่ๆ คงไม่ต้องเที่ยวแล้ว เพราะไม่ตื่นเต้น แต่งวดนี้ก็ไม่ได้ตั้งใจมาเที่ยวหรอก มาเรียนมากกว่า การเที่ยวเป็นผลพลอยได้ อืมนะ...หลังๆ เราชอบไปเรียนรู้วิถีชีวิตคนในรูปแบบต่างๆ มากกว่าเที่ยวตามหนังสือน่ะ ถึงได้ enjoy การไปอยู่บ้านลูกศิษย์ที่กำแพงเพชร รู้สึกว่ามัน"ได้"อะไรๆ มากกว่าเที่ยวแล้วถ่ายรูป ตอนนี้ก็เลยไม่ได้อินกับการถ่ายรูป การเขียนบล็อก

งวดนี้ไป Science museum เพราะเข้าฟรีและมีเวลา เค้ามีความพยายามเอาเครื่องจักร อุปกรณ์ต่างๆ มาแสดงให้ดู โดยเฉพาะเครื่องจักรไอน้ำที่เป็นจุดกำเนิดของ Industrial revolution เอามาให้ดูหลายรุ่น อธิบายการทำงาน ก็เพิ่งจำได้ว่า James Watt เป็นคนพัฒนามันให้ใช้งานได้มากที่สุด คือ แต่ละคนก็ช่วยพัฒนามันมาเรื่อยๆ เดิมของผลิตด้วยมือ ตอนนี้ใช้เครื่องจักร เหมือนฝ้ายมาจากอินเดีย แล้วมาทำให้เป็นผืนที่อังกฤษ แล้วส่งกลับไปขาย

ที่ลอนดอน คนสุภาพดี เราชอบกว่าที่นิวยอร์คนะ ตอนแรกนึกว่าจะฟังเค้าพูดไม่รู้เรื่องเพราะคนละสำเนียง แต่ปรากฎว่าไม่มีปัญหา ที่ Subway ผู้หญิงคนนึงอุตส่าห์บอกเราว่าเป้ยังไม่ปิดซิปด้วย ก็รู้สึกปลอดภัยเวลาไปไหนมาไหน ก็พยายามไม่รีบ ระวังของตก เพราะเดินทางคนเดียว ไม่มีใครช่วยดู

เมื่อวานไปซื้อของร้านสะดวกซื้อ เป็นซุปเปอร์เล็กๆ เค้ามีแต่เครื่องคิดเงินแบบทำเอง Self service คือมีพนักงานคอยช่วย แต่ว่าคุณแสกนบารโค้ด ใช้บัตรเครดิต หรือจ่ายเงินเข้าเครื่องเอง มันจะลดคนไปถึงไหน บางทีก็สงสัยว่าแล้วคนจะไปทำอะไร งานใช้แรงแบบกวาดถนน ก็เห็นแต่คนผิวสีทำ แต่เราว่าคนเดี๋ยวนี้ก็แต่งงานน้อย มีลูกน้อยด้วย เค้าก็ต้องนำเข้าแรงงานเหมือนเรานั้นแหละ

อ๋อ เมื่อวานได้ไปร้านหนังสือสองร้าน ร้านแรกเป็นเชนใหญ่ในอังกฤษ ชื่อ Waterstone ที่ได้หนังสือ malala เค้ามีโปรโมชั้น ซื้อหนึ่ง เล่มที่สองลดครึ่งหนึ่ง ก็เลยซื้อมาสอง อีกเล่มเป็น Gaia ท่านโน้สคงได้ยินที่บอกว่าโลกมีชีวิต ปรับตัวเองได้ หนังสือพวก Gaia เค้าจัดอยู่ในประเภท Smart thinking มีสองชั้นใหญ่ๆ

แล้วก็ไปอีกร้านนึง ที่ในเน็ตเค้าแนะนำ ชื่อร้าน Foyles ตามนามสกุลคนก่อตั้ง ร้านใหญ่มาก หกชั้น มีหนังสือต่างประเทศ เช่น ฝรั่งเศส รัสเซีย หญิงก็ไปกินข้าวเที่ยงที่นั่น แล้วก็เดินดู มีหนังสือทุกชนิด เช่น การแพทย์ (ขายอุปกรณ์การแพทย์ และชุดกาวน์ด้วย) วิศวะ คนที่ลอนดอนชอบอ่านหนังสือมาก ในรถไฟฟ้า ก็หยิบมาอ่าน ก็มีคนดูมือถือนะ แต่คนอ่านหนังสือก็ยังเยอะอยู่ หญิงเดินผ่านย่านหนังสือเก่าด้วย

Comments