วันแรกที่ออสโล

แม้แต่คนฟินแลนด์ยังบอกว่าออสโลแพง ก็แพงจริง ค่ารถ ค่าอาหาร ที่พักฉันจองแบบไม่แพง คืนละ 3500 บาท ใจกลางเมือง แต่ห้องก็เล็กมาก มีห้องน้ำในตัว สะอาด มีอาหารเช้า

ที่แปลกใจคือเมืองที่ดูร่ำรวยขนาดนี้ ขอทานเยอะมาก นั่งขอก็มี เดินขอก็มี มีทั้งคนที่ดูเป็นแขกขาว และดูเป็นคนขาว ขอทานเค้าก็ไม่ดูน่ากลัวหรอก แต่เราว่ามันเศร้า แล้วก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเยอะ พอรู้มาว่าอย่างในเมืองใหญ่อเมริกา คนจรจัดที่ไม่มีบ้านบางคนมีปัญหาทางประสาท หรือเป็นพวกขี้เมา

ที่นี่มีของมีดีไซน์ ร้านขายอะไรเก๋ๆ เพียบเลย พวกของที่ไม่จำเป็นนั้นเอง จริงๆ แถวแสกนดิเนเวียเด่นเรื่องดีไซน์  ก็อย่างว่า ถ้าต้องอยู่บ้านมากขนาดนี้ในหน้าหนาว ก็ต้องทำให้น่าอยู่ที่สุด  เท่าที่สังเกต ของใช้ราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับเมืองไทย แต่อาหารและบริการแพง เมืองไทยอาหารยังถูก แต่ก็ราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นเร็วกว่าของใช้

รถสาธารณะที่นี่ไม่ตรวจตั๋วตอนขึ้น เป็นความรับผิดชอบของผู้โดยสาร ฉันซื้อตั๋วของนักท่องเที่ยว Oslo Pass ที่รวมเข้า Museum ขี้นรถสาธารณะแล้ว คิดแล้วถูกกว่าและสะดวกกว่า ไม่ต้องหาซื้อ ที่เมืองใหญ่อื่นๆ ในยุโรป เช่น ซูริก ก็เป็นแบบนี้ ระบบให้เกียรติ

วันนี้ไป National Gallery ที่มีรูปดังคือ The Scream ของ Edvard Munch เป็นรูปคนยืนบนสะพานแล้วเอามือปิดหูตัวเองแล้วกรีดร้อง ฟ้าและน้ำดูแปรปรวนมาก เป็นรูปที่ไม่มีลายเส้นชัด แต่ได้อารมณ์มาก เหมือนรูปของแวนโก๊ะน่ะ จริงๆ แค่ได้มาดูรูปนี้ก็คุ้มแล้วที่มา ของจริงสีไม่สด ก็อย่างว่า รูปมัน 100 กว่าปีแล้ว ขนาดใหญ่กว่าาโปสเตอร์นิดหน่อย รูปของคุณคนนี้เค้าเศร้าๆ ดูหดหู่ทุกรูปในห้องนั้นเลย

แล้วก็ไปเดินเล่น นั่งรถรางดูเมืองเพราะมีตั๋วขึ้นได้ไม่จำกัด เดินในเมืองนี่แหละ คนเค้าชอบแต่งบ้านกันดีนะ ของแต่งบ้านอยู่ชั้น 1 ชั้นเดียวกับเครื่องสำอาง

พอต้องแต่งตัวหนาๆ แล้วมันอุ้ยอ้ายเหมือนกัน