บันทึกเรื่อยเปื่อย

พอชีวิตมันสะดุด มันก็ดี ทำให้เราได้ทบทวน ตรวจสอบว่าไอ้ที่คิดว่าเชื่อนั้เป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่ ฉันพบว่าเพื่อนร่วมทางนั้สำคัญ ฉันเริ่มคุยกับเพื่อนสนิทสมัยมหาลัยไม่เข้าใจ คือ สิ่งที่เห็นว่าสำคัญมันไม่ตรงกั พอเราไม่เหมือนใครในครอบครัว ไม่เหมือนเพื่อนเดิมๆ ของเรา มันก็ทำให้เราไม่มั่นใจว่าเราคิดถูก เลือกถูกหรือเปล่า เอ๊ หรือกูบ้าอยู่คนเดียว ยิ่งตอนนี้เพื่อนภาวนาคนสนิทไม่อยู่ ก็ขาดเพื่อนปรึกษา

เวลาที่พายุอารมณ์มันเกิดขึ้น แล้วเราไม่ได้แก้แบบทางโลกย์ๆ เช่น ไปช้อปปิ้ง ดูหนัง คุยโทรศัพท์ แต่ดูความที่เราไม่ชอบมัน อยากผลักไสมัน บางทีมันก็น่ากลัวเหมือนกันนะ แต่ก็สอนเราเยอะ ฉันเป็นโรคชอบวางแผน พออะไรไม่ได้ดั่งใจเรา เราจะดิ้นมากกว่าคนทั่วไป ช่วงนี้มันมีอะไรไม่แน่นอนบางอย่าง ก็ทำให้ฉันต้องหัดอดทนมากขึ้น รอให้ถึงเวลาค่อยตัดสินใจ

มีพี่ที่ทำงานคนนึงที่ภาคฯ เค้าติดครูบาอาจารย์ที่อีสานรูปหนึ่งมาก ไปกราบท่านบ่อยที่อีสานแทบทุกเดือน เราก็เคยสงสัยว่าทำไมต้องขนาดนั้น ทั้งๆ ที่ออกจะไกล ต้องเสียตังค์เยอะเวลาไป ตอนนี้เราก็เริ่มเข้าใจ บางคนเราอยู่ใกล้แล้วเย็น สบายใจ มีพลังงานที่ดีออกมา บางคนถึงจะเป็นคนเก่ง คนดี แต่อยู่ใกล้แล้วร้อน เกร็ง ไม่ผ่อนคลาย เราก็อยู่ใกล้เท่าที่จำเป็น

การที่มีคนขัดใจก็ดีนะ เห็นตัวเองชัดดี

บางขณะเราก็รู้สึกถึงความไร้สาระของสิ่งที่ทำอยู่ ความเป็นสมมติ พอไปธุดงค์แล้วภาวนามากขึ้น ความเป็นสมมติมันชัด สิ่งที่จำเป็นและสิ่งที่ไม่ำเป็นก็โคตรชัด ฉันก็ยังเล่นไปตามบท แต่แรงขับเคลื่อนไม่เหมือนเดิม กิเลสอาจจะหลอกให้ขี้เกียจก็ได้ ก็ดีที่ติดทุนฯ ยังไงก็ต้องทำงานจนครบเวลา

Comments