Shanghai: China Fast Forward

Tianzifang
ฉันมาเซี่ยงไฮ้ เพราะเพื่อนที่เรียนด้วยกันจัด workshop เป็นครั้งแรกที่เดินทางไปประเทศเดียวกันสองครั้งในหนึ่งเดือน คราวที่แล้วไปจีนตะวันตกที่บ้านนอกมาก ใช้ภาษาอังกฤษแทบไม่ได้ แต่ดีที่ไปกับคนที่พอพูดจีนได้ และไปกันหลายคน ก็พอไถไปได้และก็อุ่นใจ คราวนี้มาเมืองจีนในศตวรรษที่ 21 คนเดียว หลักๆ อยู่เซี่ยงไฮ้ แต่ออกไปซูโจว Suzhou (Jiangsu province) + โจวจาง Zhouzhuang (ซื้อ day tour ที่นี่) และไปหางโจวเอง ค้างหนึ่งคืน

ที่เซี่ยงไฮ้ มีรถไฟฟ้าใต้ดินครอบคลุมมาก ไปได้ทุกที่ extensive ที่สุดตั้งแต่เคยเห็นมา ทำ connection ดี รถและสถานีใหม่ ป้ายบอกในตัวรถและในสถานีดีมาก ฉันใช้บัตรเติมเงิน จะได้ไม่ต้องคอยซื้อตั๋ว เที่ยวละ 20 บาทโดยประมาณ คิดตามระยะทางด้วย

Ballroom dancing in the park

เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่คล้ายกรุงเทพตรงที่อาหารและบริการบางอย่างสำหรับขายคนต่างชาติหรือคนมีตังค์มีราคาแพง เช่น smoothie จาก cafe เก๋ๆ แต่ถ้ากินอาหารแบบที่คนที่นี่กินก็ถูก ชามใหญ่มาก 10-15 หยวน หรือ 50-80 บาท ฉันเลือกร้านที่เค้ามีรูปอาหาร แล้วก็ใช้ชี้เอา ร้่านพื้นๆ จะให้สั่งอาหาร จ่ายเงินก่อน แล้วเอาสลิปไปให้ที่เคาน์เตอร์ครัว อาหารเสร็จเค้าก็ยกมาให้ ที่นี่เค้าไม่ให้มีแผงลอย มีหาบบ้างแต่ไม่มาก พระจีนกินอาหารมังสวิรัติที่ทำเอง วัดใหญ่ๆ จึงมีอาหารมังขาย (วัดต้องหารายได้ด้วย) กินมาหลายวัด ก็อร่อยดี

1000 Buddhas, Shanghai Museum
เซี่ยงไฮ้มีคน 23 ล้านคน ก็คุ้มมากที่จะทำ public transportation มี subway (ที่นี่เรียก metro) 12 สาย มี maglev bullet train (max speed 300 km/h) จากสนามบินปูดงมา downtown และมี high-speed train เชื่อมเมืองใหญ่ต่างๆ เช่น หางโจว ปักกิ่ง (เพิ่งเสร็จ) ราคาก็โอเค รถไฟฝั่ง east ใหม่กว่าทางฝั่ง west ที่ฉันเคยนั่งมาก ห้ามสูบบุหรี่ด้วย

การพัฒนาด้่านวัตถุยังกระจุกตัวอยู่ฝั่งตะวันออกอย่างมาก คนใน Shanghai ที่ฉันเจอพูดภาษาอังกฤษได้มากกว่า ดู westernized กว่าทางฝั่งในๆ โดยเฉพาะเรื่องห้องน้ำและความสะอาดของบ้านเมือง มีร้านสะดวกซื้อทุกที่ คนรุ่นใหม่ดื่มน้ำเปล่าขวดเย็น

ที่เซี่ยงไฮ้ ฉันก็ไปดู Tianzifang ซึ่งเป็นที่ช้อปแบบร้านขายของล็อกเล็กๆ คล้ายจตุจักร; Xintiandi เป็น outdoor arcade ที่สร้างเลียนแบบตึกเก่าๆสมัยอาณานิคมที่เค้าให้คนงานอยู่ตามท่าเรือ; ไป Shanghai museum ดีมาก และไม่ใหญ่เกินไป เวลาไปพิพิธภัณฑ์ ถ้าเค้ามี audio guide แบบเสียบหูฟังให้เช่า ฉันมักจะเอา เพราะขี้เกียจอ่านและจะได้รู้ว่าอะไรสำคัญ audio guide ที่ Lingyin temple ที่ Hangzhou ไฮเทคมาก เข้าใจว่ามี RFID คือฉันไม่ต้องกดเบอร์วัตถุเลย มัน detect เองว่าฉันอยู่ตรงจุดไหน แล้วมันควร play อะไร มัน blink เฉพาะอันที่ฉันยังไม่ได้ดู; ไป Yuyuan garden ซึงเป็นสวนของข้าราชการระดับสูงทำไว้ 500 กว่าปีที่แล้ว ใหญ่มาก มีศาลารับแขก ศาลาอ่านหนังสือ ศาลาชมวิว เอาหินมาทำเป็นเขาวงกต (maze) สระน้ำ อ้อ คนจีนเริ่มทำบอนไซ แล้วคนญี่ปุ่นรับเอาไป

Street food at night
ไกด์คลายสิ่งที่สงสัยเรื่องประตูหรือ gate ว่าทำไมต้องกลม คนจีนเชื่อว่าวงกลมแทนสวรรค์ และสี่เหลี่ยมแทนโลก ที่พิพิธภัณฑ์ ฉันเห็นวัตถุบูชาคล้ายแจกัน เป็นทรงกลมและสี่เหลี่ยมสลับกัน สะพานที่ทำทางลอดข้างใต้เป็นครึ่งวงกลม เวลามองกับเงาสะท้อนในน้ำ ก็เป็นวงกลมเหมือนกัน ที่สวนจีน มักมีสะพานยึกยัก เพราะเค้ามีความเชื่อว่าวิญญาณชั่วร้ายเดินยึกยักไม่เป็น ฉันว่าคนเมามากกว่าที่จะตกสะพาน

สะพานยึกยัก หน้า Yuyuan Garden


สงสัยว่าวัฒนธรรมเอเชียส่วนใหญ่ เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี ไทย ไม่นั่งเก้าอี้และไม่มีเฟอร์นิเจอร์มากนัก แต่บ้านจีนมี สงสัยว่ามีเฉพาะบ้านคนมีเงิน

ประเทศจีนคิดค่าเข้าชมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวัด โบราณสถาน อุทยานแห่งชาติ (คนชาติจีนด้วยกันก็เก็บ) แต่สิ่งที่ฟรีคือพิพิธภัณฑ์ของรัฐ บางแห่งทำดีมากๆ เทียบเท่ากับพิพิธภัณฑ์ดีๆที่ประเทศตะวันตกได้เลย ไม่เห็นด้วยกับการเก็บเงินค่าเข้าวัดเท่าไหร่ เผื่อคนไม่ค่อยมีอยากมาไหว้พระล่ะ

บ้านเรือเพื่อเตือนใจข้าราชการ
เค้ามีคำพูดว่าประชาชนเหมือนน้ำ
ผู้ปกครองเหมือนเรือ
น้ำค้ำจุนเรือก็ได้ คว่ำเรือก็ได้

เดิมฉันไม่เคยคิดว่าจะเดินทางคนเดียวในประเทศกำลังพัฒนาเพราะกลัวว่าจะอันตราย พูดไม่รู้เรื่อง ไปจากจุดหนึ่งไปอีกจุดลำบาก การมาเองโดยไม่ตั้งใจคราวนี้ทำให้รู้ว่าก็พอทำได้ ค่อนข้างรู้สึกลอดภัย หากต้องบอก taxi หรือซื้อตั๋วรถ ก็ให้คนจีนช่วยเขียนลงบนกระดาษแล้วไปยื่นเอา ถ้าหลงก็ถามหรือใช้แผนที่

หรืออาจเป็นได้ว่าจีนพัฒนาเร็วกว่าที่ฉันคิดก็ได้

ที่เซี่ยงไฮ้ที่อื่นๆ ก็ the Bund ดู architecture สมัยอาณานิคม; Jing'an Si (Si "ซื่อ" แปลว่าวัด), Yufo Si (crystal jade temple) มีพระหยกองค์โตจากพม่า งามดี

Zhouzhuang, near Suzhou

ฉันรู้จักเมืองแถวนี้ที่ควรไป เพราะมีคนแนะนำและดูจากโบรชัวร์บริษัททัวร์. ทำการบ้านน้อยมาก

ที่ Suzhou (Jiangsu province) มีสวนที่เป็น Unesco world heritage site หลายแห่ง สวนอายุ 600-1000 ปี คล้ายบ้านตากอากาศของคนรวย ซึ่งก็คือข้าราชการระดับสูงในสมัยก่อน ต้นไม้ก็อยู่ไป แต่ส่วนทีเป็นอาคารไม้หลายแห่งสร้างใหม่ น่าทึ่งในความพยายามเอาธรรมชาติมาล้อมรั้ว คนจีนชอบสร้างกำแพง ไม่ว่าจะเป็นบ้าน วัด วัง หรือสวน หินรูๆ ก้อนใหญ่. สวยๆ เป็นของสำคัญ บ่งบอกศักดินาของเจ้าของบ้าน

Lingyin temple, Hangzhou

ที่โจวจางเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยคลอง (water town). มีเมืองแบบนี้หลายแห่งในแถบนี้ เพราะเค้าขุดคลองส่งนำ้จากปักกิ่งมาหางโจว กว้าง 10-15 ม. แต่ที่นี่ดังสุด เพราะมีศิลปินมาวาดรูปไว้ ก็น่ารัก ได้นั่งเรือแจวด้วย

ที่ Hangzhou (Zhejiang province) มี West lake (Xihu) สวยเพราะมีภูเขาเขียวอยู่ด้านหลัง ต้นไม้ล้อมรอบ และมีขนาดใหญ่มาก เป็น Unesco world heritage site เช่นกัน ฉันสงสัยว่าเค้าทำไงให้คนเก็บต้นไม้ไว้ คือ ก็มีสิ่งปลูกสร้าง แต่ต้นไม้ก็เยอะมากเช่นกัน ถึงแม้บางต้นจะดูไม่ใหญ่เท่าไหร่; Lingyin temple ที่เป็นวัดท่านจี้กงเคยอยู่ วัดใหญ่และยัง active อยู่ ตอนที่ไปก็เห็นพระสวดมนต์กันอยู่ หน้ากำแพงวัดมีหน้าผาหินไม่สูงนัก ก็ที่เคยเห็นที่อื่นในเมืองจีน. เค้าสลักเป็นรูปองค์พระ จารึกเหตุการณ์หรือคำภีร์ด้วย

Meglev train
เห็นความแตกต่างระหว่างการเดินทางกับเพื่อน กับการเดินทางคนเดียวชัด เพราะห่างกันไม่นาน เที่ยวเดี่ยวมันต้องคิดเยอะกว่า ต้องระวังมากกว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นต้องแก้เอง ฉันไม่วิตกจริตว่าจะไม่มีใครช่วย เพราะก็ได้รับความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าทุกครั้งที่เดินทาง และถ้าเงินหมดก็มี ATM หรือ Western Union แต่ฉันก็ต้องช่วยตัวเองก่อน ข้อดีของการโซโลทัวร์ก็คือตามใจตัวเองเต็มที่ อยากไปไหนก็ไป กินเมื่อไหร่ก็กิน ตื่นเมื่อไหร่ก็ได้ ไปกันหลายคนก็ต้องปรองดอง บางทีก็มีห่วงชาวบ้านด้วย กินได้ไม๊ ขาดอะไรหรือเปล่า และก็มีกระทบกระทั่งกันบ้าง

West Lake (Xihu), Hangzhou

พอเราภาวนามากขึ้น เราก็เห็นข้อเสียของเรามากขึ้น ถี่ขึ้น ไอ้ความขี้จับผิดของฉันที่ชอบเห็นข้อเสียของคนอื่นก็หลุดออกทางปากน้อยลง เพราะเราไวขึ้น เห็นน่ะเห็นอยู่เหมือนเดิม แต่ให้อภัยได้ (ส่วนมาก) เพราะรู้ว่าเราก็เป็นแบบนั้นในบางทีเหมือนกัน

Comments