เมื่อฉันพึ่งตัวเองทางอารมณ์

อยู่ดีๆ ความเซ็งก็จู่โจม ถ้าเป็นสมัยก่อน ก็ไม่คิดมาก ก็ไปหาอะไรอร่อยๆ กิน ไปช้อปปิ้ง คุยโทรศัพท์ หาหนังสือมาอ่าน แต่ตอนนี้ก็รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันแค่เปลี่ยนอารมณ์ ประเด็นที่สำคัญกว่าก็ไม่อยากให้ตัวเองชินกับวิธีการแก้เซ็งแบบนั้น แล้วใจฉันมันก็เริ่มเฉยๆ กับเรื่องกิน เรื่องช้อบแล้วด้วย (ทำมาเยอะ) มันก็เลยไม่ได้ช่วยเปลี่ยนอารมณ์เท่าไหร่ คล้ายๆ Diminishing return ทางเศรษฐศาสตร์...

ก็ปล่อยให้ตัวเองตกหลุมดำอยู่สองวัน วันแรกเกือบจะโทรไปหาเพื่อนคนหนึ่งแล้ว รู้ว่าเค้าให้คำแนะนำที่ดีได้แน่นอน แต่ทีนี้ ฉันก็ไม่อยากทำให้ตัวเองเสพติดความเป็นเพื่อนของเค้า (Companionship) มากเกินไป คืออยากพึ่งตัวเองได้ทางอารมณ์น่ะ ถ้ามีปัญหาที โทรที มันก็ไม่เป็นผู้ใหญ่ทางอารมณ์ซักทีน่ะสิ แล้วฉันก็เห็นใจคนฟังด้วย ทำไมเค้าต้องมาฟังเรื่องไร้สาระของเราวะ งานเค้าก็เยอะ (งานเราก็เยอะ) และจริงๆ แล้ว ฉันก็รู้ทางออกของปัญหาฉัน (ก็คือไม่ต้องทำอะไรนั่นแหละ เซ็งได้ก็หายได้) แต่มันไม่ทันใจไง อยากหายเซ็งไวๆ และก็อยากหาคนฟังเราระบายด้วย เพื่อนคนนี้เค้าเป็นภูเขาน้ำแข็ง (Iceberg) ที่ลูกใหญ่กว่าภูเขาไฟอย่างฉัน คือ รับมือฉันได้แน่นอน บางทีเหมือนเค้าอ่านใจเราได้ (Psychic มาก) แต่จริงๆ คงไม่ต้องอ่านใจหรอก หน้าฉัน คำพูดฉันมันฟ้องอยู่โทนโท่

อีกเหตุผลที่ไม่โทรคือ...ฉันไม่สามารถนิยามปัญหาตัวเองได้ เหมือนถูกกิเลสหลอกอยู่...ก็คิด...เราเลิกภาวนาแล้วไปสุขแบบโลกย์ๆ ดีไม๊ มันเร็วดี (ถ้าโทรไปเล่าให้เค้าฟังเรื่องนี้ ถูก”ด่า”แน่นอนว่าทำให้เสียชื่อพระอาจารย์) แต่พอเริ่มชินกับการกลับมาที่ร่างกาย ก็ทำให้ความคิดฟุ้งซ่านมันสั้นลง ถึงจะฟุ้งก็ไม่ใช่นิยาย เป็นแค่ย่อหน้าสั้นๆ ไม่ปะติดปะต่อ หลายปีในหลายมหาวิทยาลัยฝึกฉันให้เป็นนักคิด ใช้ความคิดแก้ปัญหา ทีนี้พอมาภาวนา ฉันก็ถูกสอนให้เปลี่ยนความเคยชิน ให้รู้ว่าคิดเฉยๆ ไม่ต้องไปช่วยมันคิด สันดานเก่าๆ ที่ใจรวมกับความคิดมันก็เลยดีดดิ้น กลายเป็นความอึดอัดใจ (Frustration) ของฉัน อ้อ...ความคิดอีกอันที่ผุดขึ้นมาก็คือ ทำไมฉันต้องไปยึดว่ามันเป็นความเซ็งของช้านนนน...ด้วยน้อ

วันนี้ตอนเช้า บทความที่ปั่นมาหลายวันก็เสร็จ มีเวลาไปฝึกโยคะ (จากที่ไม่ได้ไปคลาสเป็นอาทิตย์) กินอาหารมังสวิรัติอร่อยๆ แล้วก็ไปภาวนากับท่านตุ้มที่บ้านอารีย์ ตอนเย็น ความเซ็งก็หายไปซะเฉยๆ ก็อย่างที่เพื่อนฉันบอกเมื่อตอนบ่ายที่ได้คุยกันแว็บๆ นั่นแหละ เค้าว่า...เดี๋ยวก็หายเบื่อเองแหละ ไม่ต้องบ่นหรอก... เราก็คิด...โห..มีน้ำใจจริงๆ เล๊ย...

Comments