Jim Thompson's Farm: Heaven on Earth

รูปทั้งหมดอยู่บน Picasa Album

เมื่อวานวันที่ ๒ มค. ฉันกับเพื่อนอีกสองคนไปภาวนาและฟังธรรมจากท่านชยสาโร ที่บ้านบุญ ปากช่อง (ท่านจะออกเทศน์วันอาทิตย์ที่หนึ่ง และสามของทุกเดือน) ท่านนำเราทำวัตรเช้า ปิดด้วยการสวดมงคลสูตร แล้วก็นำนั่งสมาธิ แล้วก็เทศน์ เรื่องการวางใจในการทำงาน ว่าโลกนี้เป็นโลกแห่งความไม่สมบูรณ์ ไม่เรียบร้อย จะหวังว่าสักวันหนึ่งทุกอย่างจะเรียบร้อย ทำงานแล้วได้เต็มร้อยอย่างที่หวัง เป็นไปไม่ได้ แล้วก็บอกว่าไม่มีคนชั่ว มีแต่ความชั่ว ไม่ควรแบ่งเขาแบ่งเรา ฉันและเพื่อนๆ ชอบธรรมเทศนาคราวนี้มาก สองคนนี้ประทับใจในท่านชยสาโรกันใหญ่

ตอนบ่าย เราไป Jim Thompson's Farm (อ.ปักธงชัย โคราช) กัน เค้าเปิดเฉพาะหน้าหนาวปีละครั้ง จัดดีมาก เดิมเป็นที่เลี้ยงใบหม่อน ทอผ้าไหมของโรงงานจิม แต่ตอนนี้ตัวโรงงานเค้าย้ายไปอยู่อีกที่แล้ว มีสี่จุดให้ชม จุดแรกเป็นทุ่งดอกทานตะวันและดอก Cosmos มี open-air art installation (ศิลปะจัดแสดง) ด้วย สวยดี ข้างๆมีบ่อเก็บน้ำ ก็ถ่ายรูปกัน

จุดที่สองเป็น Open-air museum ของบ้านโบราณในอีสาน บ้านหลังแรกเป็นบ้านโคราช อายุสองร้อยกว่าปี ใหญ่ขนาด 70 ตรม. มีอื่นๆ อีกเกือบสิบหลัง ฉันชอบบ้านไม้เก่าๆ แบบนี้ ชอบดูแต่ไม่ชอบอยู่ (ชอบทุกอย่างที่ผ่านขบวนการคิดมา ที่ตั้งใจทำ จะ modern สุดๆ หรือโบราณสุดๆ ก็ได้) ถ้าเค้าไม่ซื้อมาเก็บอนุรักษ์ไว้นี่ มันเสร็จแน่ ถอดขายเป็นไม้เก่า จริงๆ เอาหลายๆ หลังมาต่อๆ กันแล้วใช้อยู่แบบสมัยใหม่ได้ เหมือนกับที่บ้านพิพิธภัณฑ์บ้านคุณจิมที่ถ.พระราม ๑ ที่ กรุงเทพฯ เค้าเอาบ้านไม้มาต่อกัน ๖ หลัง แล้วก็ใช้อยู่แบบสมัยใหม่ มีห้องกินข้าว ห้องรับแขก

 การใช้บ้านของเค้าน่าสนใจ เอามาจัดแสดงงานศิลปะ เช่น รูปถ่าย งาน modern art อื่นๆ ที่นี่เค้ามี Curator (คนที่จัดงานแสดงให้พิพิธภัณฑ์) ที่เก่งมาก และมูลนิธิมีเงินด้วย (คุณจิมแกหายสาบสูญไปในป่ามาเลเซีย) แล้วก็มีของเล่นพื้นบ้านให้ลองเล่น เช่น ม้าไม้ไผ่ รถสามล้อไม้้ มีการทำของเล่นจักสานให้ดู มีการแสดงขั้นตอนการเลี้ยงหนอนไหมจนถึงเป็นเส้นไหม มีนาข้าว มีการแสดงขั้นตอนการสีข้าวด้วยแรงคน มีการปั้นหม้อดินเหนียว (คุณยายแบงคนปั้นมาจากโคราชนี่เอง) มีศิลปินพักที่นั่นชื่ออาจารย์เสถียร เสือสาวะถี (Artist in residence) แกมาจากขอนแก่น รับวาดรูปจิตรกรรมไทย แกแขนพิการไปข้างหนึ่งด้วย อายุดูมากแล้ว

อ.เสถียร, Artist in residence at Jim Thompson's Farm

แล้วก็ขายอาหารอีสาน ชอบที่เค้าไม่ใช้จานโฟม ใช้จานสังกะสี ราคาก็ไม่ขูดรีดเกินไป

จุดสุดท้ายเป็นขายของ ผ้าไหม (ราคาถูกกว่าที่ร้านกรุงเทพ) ดอกไม้ อาหาร แล้วก็สาธิตการปั่นด้าย การเอาด้ายขึ้นกี่ การทอด้วยกี่กระตุก แค่เห็นขั้นตอนก็ไม่อยากต่อราคาแล้ว กว่าจะเสร็จสักผืน แต่ฉันว่าประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่เสร็จเมื่อไหร่ แต่อยู่ที่ทำแล้วออกมาดีไหม และขณะทำเรามีความสงบ ความสุข ความพอใจไหม สิ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับหัตถกรรมคือมันให้สมาธิมากๆ แล้วก็มีทุ่งดอกไม้ ทิวสน


ขากลับ ออกมา ๖ โมงเย็น ถึงตีสาม! รถติดตั้งแต่เกือบถึงสีคิ้วแน่ะ แล้วก็กระตื้บๆ มาเรื่อยๆ จนถึงกรุงเทพ โชคดีที่เพื่อนขับรถเป็นทุกคน และอีกสองคนเป็นคนนอนดึก เราเลยสลับกันขับ ก็นั่งคุยกัน นินทาชาวบ้านจนหมดกรุแล้วก็ยังไม่ถึงซะที

รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่มีเพื่อนดีๆ ที่ความชอบตรงกัน พูดกันแล้วเข้าใจ คงเป็นสัญชาติญาณของมนุษย์ที่ต้องการเป็นหนึ่งเดียวกับมนุษย์คนอื่นๆ

Comments