หลังจากจบการเรียน Communication & Leadership (Syllabus) ทั้ง 14 คาบที่เรียน on site แล้ว นิสิตจะต้องเขียนประเมินตัวเองว่าก่อนและหลังเรียนต่างกันอย่างไร หรือถ้าไม่เปลี่ยน อยากเปลี่ยนอะไร
นิสิตคนที่ 1
ก่อนที่จะมาเรียนวิชานี้ รู้สึกว่าตัวเองผมย่ำอยู่กับที่ไม่พัฒนา ไม่มีเป้าหมายที่แน่ชัดไม่รู้จะทำอะไร ไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิต ในขณะที่เราเห็นคนอื่นกำลังก้าวไปข้างหน้า เกิดการอิจฉาลึกๆในใจ แต่เราไม่ยอมรับ เราเชื่อมั่นว่าเราช้าเพราะ โรคระบาด เรียนหนัก ทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้รวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันคนอื่นๆก็ เจอปัญหาเดียวกัน เราก็โทษเรื่องต้นทุนชีวิตที่แตกต่าง แต่ไม่เคยไปมองหาว่าคนอื่นนั้นผ่านอะไรมาบ้าง พบเจอความลำบากยังไง มองโลกผ่านอัตตาในตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง จนมืดบอด เชื่อว่าตัวเองรู้จักตัวเองดีพอแล้ว แต่เมื่อได้เห็นเพื่อนที่สนิทในภาคปกติ ที่ได้เรียนวิชานี้ไปแล้ว เกิดการเปลี่ยนแปลง เกิดความเข้าใจมากขึ้นเลยเริ่มมีความคิดว่าอยากปรับรุงตัวเองอยากเป็นคนที่ดีขึ้น จึงได้ลองขออาจารย์เพื่อที่จะเรียนวิชานี้
หลังเรียนจบพบว่า สิ่งที่เราคิดนั้นเปลี่ยนไป อย่างแรกความเข้าใจตัวเองที่เรารู้สึกมาตลอดนั้น มันน้อยมาก พอได้เรียนไปเรื่อยๆฟังเสียงตัวเองมากขึ้น รับรู้ความต้องการ รวมไปถึงพลังงานในตัวเรา ทำให้เรากล้ายอมรับความรู้สึกของตัวเองที่เกิดขึ้น อิจฉาก็ยอมรับว่าอิจฉา เศร้าก็ยอมรับว่าเศร้า ทำอะไรเยอะก็ลองปรับแบ่งกระจาย มีตารางที่อัดกัน เพราะต้องมีกำหนดส่ง ตอนนี้เริ่มทยอยทำ ถึงแม้ไม่มีเดดไลน์เราก็สามารถเริ่มทำสิ่วต่างๆก่อนที่จะรู้ได้มากขึ้น โดยใช้ทัศนะคติเดียวกับการออกกำลังกายว่า ไม่ต้องรอให้ป่วยหรือใกล้ตายแค่ทำไปแล้วความเปลี่ยนแปลงจะเกิดไม่รู้ว่าผลจะดีหรือไม่ดีไม่ต้องคิดเองลงมือทำไปเรื่อยๆ ตอนเริ่มออกกำลังกายก็ทำแบบนั้น ทำให้ชีวิตตอนนี้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่อัดไม่เหนื่อย รู้ว่าตัวเองช้าเพราะอะไร รู้ว่าตัวเองมีข้อเสียอย่างไร จนมีคนยอมรับว่าเรามองโลกในแง่ดีขึ้น ปรับเปลี่ยมุมมอง ให้อนุญาตตัวเองพัก ขอบคุณตัวเอง นึกถึงสิ่งดีๆ กล้าร้องขอ กล้ารับฟัง ความสัมพันธ์กับแฟนดีขึ้นมากกับครอบครัวด้วยเช่นกัน ผมกลับบ้านครั้งล่าสุดเพราะรู้ว่ามือถือของพ่อเสีย เลยจะซื้อเครื่องใหม่ไปให้ ตอนไปถึงร้านมือถือ เลยโทรถามพี่สาวว่ารุ่นเก่าของพ่อคืออะไร จะได้เลือกถูกให้เหมาะกับการใช้งาน แต่พี่สาวบอกว่าพ่อซื้อใหม่แล้ว พอกลับมาถึงบ้านพ่อรู้ว่าเราจะซื้อเครื่องใหม่ให้ ท่านเรียกเราไปกอดพร้อมขอบคุณเราที่ต้องการจะช่วยเหลือ ได้มีโอกาสเปิดใจคุยกันในสิ่งที่จะทำต่อ แลกเปลี่ยนความต้องการ ตอนนี้ไม่ต้องรับราชการก็ได้ไม่ต้องหางานที่ได้เงินดีๆเลย ไม่ต้องรีบมั่นคงก็ได้ ท่านบอกเราเองว่าให้เราไปหางานทำแล้วเรียนรู้เอาก่อน ยังไม่มีก็กลับมาอยู่บ้านไม่ได้บีบว่าจบแล้วต้องมีเงินส่งเสียตัวเอง พูดถึงเรี่องถ้าอยากเรียนต่อก็จะสนับสนุน จะส่งเสียต่อไปแต่หากเกิดสะดุด ก็อยากให้มีเงินที่สามารถส่งเสียตัวเองได้ ตอนนี้ความสัมพันธ์ในครบครัวดีขึ้นอย่างมากเลยครับ ตอนนี้ไม่เจอเสียงหมาป่าเลย เราไม่เอาความคิดเราไปตัดสินใครอีก จนกว่าจะได้ลองไปสัมผัส สังเกตจริงๆ ไม่ตัดสินคนจากการมองเพียงครั้งเดียวหรือสิ่งที่เขาทำ ถ้าอยากจะรับรู้จะลงไปทำความรู้จักว่าเขาเป็นอย่างไรแทน กับเพื่อนที่เรากลัวๆกล้าๆ ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นด้วย เราก็กล้าที่จะบอก ไม่กลัวว่าจะเสียเพื่อนไป เพราะที่เถียงหรือทะเลาะกัน ความต้องการจริงๆก็คือเป็นห่วงกันและกัน กล้าเผชิญหน้ากับความขัดแย้ง พร้อมพูดคุยกับคนอื่น จากที่มั่นใจในตัวเองมาก จนทำพลาดตอนที่อาจารย์ประไพศรีเตือน ก็ได้คำแนะนำจากอาจารย์ที่จะกล้าถามเพิ่มเติม ไม่คิดเองว่าเราเป็นอย่างไร จนได้รับคำแนะนำมาเพื่อปรับปรุงตัว เข้าใจมุมมองต่างๆว่าการมองโลกในแง่ดีไม่ใช่โลกสวย ยอมรับความผิดพลาดและเรื่องของจังหวะชีวิต ณ ช่วงเวลานี้เรากำลังทำอะไรควรปรับปรุงและพัฒาตัวเองย่างไรต่อ จากวันที่เริ่มเรียนจนถึงวันนี้ผมก็ไม่ได้เป็นคนที่ทำงานดีขึ้น ไม่ได้กล้ามใหญ่ขึ้น ไม่ได้รวยขึ้น ไม่ได้มีงานรองรับหรือมีบริษัทดีๆมาทาบทาม แต่ก็ไม่ได้เป็นกังวล เรามีความสุขกับทุกวัน ถึงบางวันจะไม่มีแผนหรือผิดแผน แต่เราก็มองหาเรื่องใหม่ๆที่จะไปทำ เช่นลองไปเดินไปวิ่งในที่ ที่ไม่เคยไป ลองกินข้าวร้านอื่น ตอนนี้รู้สึกมีความสุขกับชีวิต ความเครียดต่างๆลดลง ไม่โทษสิ่งอื่นรอบๆตัว ไม่โทษตัวเองแต่เข้าใจในสิ่งที่ทำทั้งดีและไม่ดี
สิ่งที่ยังไม่เปลี่ยนไปคือการแวะ จาก A ไป B เราชอบวนชอบแวะ ชอบไปช้าๆ อยากโฟกัสและแวะให้น้อยลงบ้างแต่ไม่กดดันตัวเองว่าจะต้องรีบไปให้ทันคนอื่น เพราะเราฝืนแรงต้านไม่ไหว แต่คิดว่าจะลดการไปนอกเป้าหมายหรือแวะลองอย่างอื่นเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นหน่อย อยากเห็นตัวเองมีงานทำหลากหลาย มีงานประจำ มีงานเสริมที่เป็นความชอบ เช่นสอนพิเศษหรือเป็นเทรนเนอร์ งานประจำตอนนี้อยากเป็น consult กำลังมุ่งเป้าหางานเพื่อที่จะเรียนรู้ อยากมีบ้านสวนให้พ่อกับแม่ เป็นที่ที่ทำให้เราได้กลับไปพักผ่อนด้วย อยากสร้างงานให้พ่อกับแม่ สร้างธูรกิจให้ท่านจะได้ไม่ต้องทำงานหนัก อยากมีเงินให้พี่ไปเรียนเพื่อได้ทำในสิ่งที่ชอบ ความต้องการเหล่านี้ล้วนใช้เงิน แต่คิดว่าสามารถทำได้ ถ้าไม่รวยก็ทำขนาดที่เล็กลงมาได้ อยากเป็นคนที่มีระเบียบมากกว่านี้ ช้าลงกว่านี้ในเรื่องของการคิดและการทำงานเพราะบางครั้งเรามุ่งเป้าและทำอย่างรวดเร็วจนเกิดไปแล้วเกิดความผิดพลาด ใจเย็นลง อยากช่วยเหลือคน อยากที่จะมีโอกาสได้พูดให้กำลังใจ ให้ความรู้กับคนอื่น อยากเป็นวิทยากร มีคนเชิญไปพูด
ความรู้สึกที่มีต่อคลาสนี้คือเป็นคลาสที่ปลดล็อกหลายอย่างในตัว ทำให้เรากล้านอกจากการกล้าแสดงออก กล้าพูด ยังกล้าที่จะยอมรับความรู้สึกของตัวเอง เป็นคลาสที่สนุก อบอุ่น และมีพลังงานที่ดีให้สามารถเข้าไปเรียนรู้ สอนสิ่งที่ตลอดการเรียนในชีวิตมหาลัย ไม่เคยได้ใช้ แต่เป็นสิ่งที่นำไปใช้และสามารถทำให้เราเป็นคนที่ดีขึ้นได้ ตอนแรกอยากเสนอให้มีเป็นวิชาบังคับ อยากให้ทุกคนได้เรียน แต่พอมาคิดจริงๆมันต้องใช้ความพยายามพอควร และเปิดใจที่จะเรียนรู้ทุ่มแรงกายแรงใจกับมัน ถึงจะเกิดผล ถ้าบังคับคนอื่นให้เรียนคนที่ไม่อยากอาจจะไม่ชอบเลยก็ได้ เป็นวิชาเลือกแบบนี้น่าจะเหมาะสมแล้วครับ การดูแลของอาจารย์ทั่วถึงมากเข้าใจเลยว่าทำไมจำกัดจำนวนเพราะอาจารย์ก็ต้องใช้ความพยายามในการทำความเข้าใจแต่ละคนจริงๆ อยากได้รับคำแนะนำและมุมมองในหัวข้อของแต่ละครั้งจากอาจารย์ท่านอื่นด้วยบ้าง อาจจะทำให้กล้าที่จะปรึกษากับอาจารย์ท่านอื่นๆในตอนเรียนหรือทำโปรเจค ขอขบคูณอาจารย์ที่ตั้งใจออกแบบคลาส และให้คำแนะนำให้ความช่วยเหลือผม เป็นแรงบัลดาลใจในการปรับปรุงตัวเอง
อยากเสนอว่า ช่วงนี้เราก็สามารถอยู่ร่วมกับโรคระบาดได้อยากมีโอกาสได้ไปอย่างรุ่นพี่ ที่ออกนอกสถานที่ แต่คิดว่าถ้ารวมภาคปกติกับภาคพิเศษอาจจะเยอะเกินไป หากสามารถชักชวนตามความสมัครใจโดยแบ่งเป็นรอบไปได้ และให้เลือกไปตามความสมัครใจก็คงจะทำได้ถ้าภาควิชาอนุญาติ นี่อาจจะเป็นความต้องการของผมคนเดียวที่อยากจะได้ไปเจอเพื่อนในภาคปกติที่เรียนวิชานี้ด้วยกันเพราะอยากรู้ว่าเพื่อนในภาคของเราใครบ้างที่เรียนและเป็นยังไง
สุดท้ายสิ่งที่ทำวันนี้ความคิดของผมวันนี้ต่อไป หากไปเจอโลกของการทำงานจะเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างไรก็คงไม่สามารถรู้ได้ แต่สิ่งที่ได้เรียนรู้จากคลาสนี้ ณ ปัจจุบันคงส่งผลให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้นได้จะพยายามนำไปใช้เพื่อไม่ให้ลืมสิ่งที่เรียนในวันนี้ ในวันข้างหน้าโพสนี้คงจะเตือนผมอยู่นทุกๆปี ณ ช่วงนี้คงจะได้กลับมาอ่านและย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ ขอขอบคุณอาจารย์มากๆครับ
Comments